10. อชครงฺคปญฺโห
[10] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อชครสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อชคโร มหติมหากาโย พหูปิ ทิวเส อูนูทโร ทีนตโร กุจฺฉิปูรํ อาหารํ น ลภติ, อปริปุณฺโณ เยว ยาวเทว สรีรยาปนมตฺตเกน ยาเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคิโน โยคาวจรสฺส ภิกฺขาจริยปฺปสุตสฺส ปรปิณฺฑมุปคตสฺส ปรทินฺนปฺปาฏิกงฺขิสฺส สยํคาหปฺปฏิวิรตสฺส ทุลฺลภํ อุทรปริปูรํ อาหารํ, อปิ จ อตฺถวสิเกน กุลปุตฺเตน จตฺตาโร ปญฺจ อาโลเป อภุญฺชิตฺวา อวเสสํ อุทเกน ปริปูเรตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, อชครสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘อลฺลํ สุกฺขํ วา ภุญฺชนฺโต, น พาฬฺหํ สุหิโต สิยา;
อูนูทโร มิตาหาโร, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเชฯ
‘‘‘จตฺตาโร ปญฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;
อลํ ผาสุ วิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’’ติฯ
อชครงฺคปญฺโห ทสโมฯ
สีหวคฺโค ปญฺจโมฯ
ตสฺสุทฺทานํ –
เกสรี จกฺกวาโก จ, เปณาหิ ฆรกโปตโก;
อุลูโก สตปตฺโต จ, วคฺคุลิ จ ชลูปิกา;
สปฺโป อชคโร เจว, วคฺโค เตน ปวุจฺจตีติฯ
6. มกฺกฏกวคฺโค