เมนู

‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สีโห อสนฺนิธิภกฺโข, สกิํ โคจรํ ภกฺขยิตฺวา น ปุน ตํ อุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อสนฺนิธิการปริโภคินา ภวิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, สีหสฺส ฉฏฺฐํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ

‘‘ปุน จปรํ , มหาราช, สีโห โภชนํ อลทฺธา น ปริตสฺสติ, ลทฺธาปิ โภชนํ อคธิโต [อคถิโต (สี.)] อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน ปริภุญฺชติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โภชนํ อลทฺธา น ปริตสฺสิตพฺพํ, ลทฺธาปิ โภชนํ อคธิเตน อมุจฺฉิเตน อนชฺโฌสนฺเนน อาทีนวทสฺสาวินา นิสฺสรณปญฺเญน ปริภุญฺชิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, สีหสฺส สตฺตมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร เถรํ มหากสฺสปํ ปริกิตฺตยมาเนน –

‘สนฺตุฏฺโฐยํ, ภิกฺขเว, กสฺสโป อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตน, อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฏฺฐิยา จ วณฺณวาที, น จ ปิณฺฑปาตเหตุ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชติ, อลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ น ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ อคธิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปญฺโญ ปริภุญฺชตี’’’ติฯ

สีหงฺคปญฺโห ปฐโมฯ

2. จกฺกวากงฺคปญฺโห

[2] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘จกฺกวากสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานีติ’’? ‘‘ยถา, มหาราช, จกฺกวาโก ยาว ชีวิตปริยาทานา ทุติยิกํ น วิชหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ยาว ชีวิตปริยาทานา โยนิโส มนสิกาโร น วิชหิตพฺโพฯ อิทํ, มหาราช, จกฺกวากสฺส ปฐมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ

‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จกฺกวาโก เสวาลปณกภกฺโข, เตน จ สนฺตุฏฺฐิํ อาปชฺชติ, ตาย จ สนฺตุฏฺฐิยา พเลน จ วณฺเณน จ น ปริหายติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ยถาลาภสนฺโตโส กรณีโย, ยถาลาภสนฺตุฏฺโฐ โข, มหาราช, โยคี โยคาวจโร น ปริหายติ สีเลน, น ปริหายติ สมาธินา, น ปริหายติ ปญฺญาย, น ปริหายติ วิมุตฺติยา, น ปริหายติ วิมุตฺติญาณทสฺสเนน, น ปริหายติ สพฺเพหิ กุสเลหิ ธมฺเมหิฯ อิทํ, มหาราช, จกฺกวากสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ

‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จกฺกวาโก ปาเณ น วิเหฐยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน นิหิตทณฺเฑน นิหิตสตฺเถน ลชฺชินา ทยาปนฺเนน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปินา ภวิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, จกฺกวากสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน จกฺกวากชาตเก –

‘‘‘โย น หนฺติ น ฆาเตติ, น ชินาติ น ชาปเย;

เมตฺตํโส [อหิํสา (สี. ปี.)] สพฺพภูเตสุ, เวรํ ตสฺส น เกนจี’’’ติฯ

จกฺกวากงฺคปญฺโห ทุติโยฯ

3. เปณาหิกงฺคปญฺโห

[3] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘เปณาหิกาย ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, เปณาหิกา สกปติมฺหิ อุสูยาย ฉาปเก น โปสยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สกมเน [สกมโน (ก.)] กิเลเส อุปฺปนฺเน อุสูยายิตพฺพํ, สติปฏฺฐาเนน สมฺมาสํวรสุสิเร ปกฺขิปิตฺวา มโนทฺวาเร กายคตาสติ ภาเวตพฺพาฯ อิทํ, มหาราช, เปณาหิกาย ปฐมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ

‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เปณาหิกา ปวเน ทิวสํ โคจรํ จริตฺวา สายํ ปกฺขิคณํ อุเปติ อตฺตโน คุตฺติยา, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เอกเกน ปวิเวกํ เสวิตพฺพํ สํโยชนปริมุตฺติยา, ตตฺร รติํ อลภมาเนน อุปวาทภยปริรกฺขณาย สงฺฆํ โอสริตฺวา สงฺฆรกฺขิเตน วสิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, เปณาหิกาย ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, พฺรหฺมุนา สหมฺปตินา ภควโต สนฺติเก –