เมนู

3. กุสลากุสลพลวตรปญฺโห

[3] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ อธิมตฺตํ พลวตรํ กุสลํ วา อกุสลํ วา’’ติ? ‘‘กุสลํ, มหาราช, อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา อกุสล’นฺติฯ ‘‘นาหํ, ภนฺเต นาคเสน, ตํ วจนํ สมฺปฏิจฺฉามิ ‘กุสลํ อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา อกุสล’นฺติ, ทิสฺสนฺติ, ภนฺเต นาคเสน, อิธ ปาณาติปาติโน อทินฺนาทายิโน กาเมสุมิจฺฉาจาริโน มุสาวาทิโน คามฆาติกา ปนฺถทูสกา เนกติกา วญฺจนิกา, สพฺเพ เต ตาวตเกน ปาเปน ลภนฺติ หตฺถจฺเฉทํ ปาทจฺเฉทํ หตฺถปาทจฺเฉทํ กณฺณจฺเฉทํ นาสจฺเฉทํ กณฺณนาสจฺเฉทํ พิลงฺคถาลิกํ สงฺขมุณฺฑิกํ ราหุมุขํ โชติมาลิกํ หตฺถปชฺโชติกํ เอรกวตฺติกํ จีรกวาสิกํ เอเณยฺยกํ พฬิสมํสิกํ กหาปณิกํ ขาราปตจฺฉิกํ ปลิฆปริวตฺติกํ ปลาลปีฐกํ ตตฺเตนปิ เตเลน โอสิญฺจนํ สุนเขหิปิ ขาทาปนํ ชีวสูลาโรปนํ อสินาปิ สีสจฺเฉทํ, เกจิ รตฺติํ ปาปํ กตฺวา รตฺติํ เยว วิปากํ อนุภวนฺติ, เกจิ รตฺติํ กตฺวา ทิวา เยว อนุภวนฺติ, เกจิ ทิวา กตฺวา ทิวา เยว อนุภวนฺติ, เกจิ ทิวา กตฺวา รตฺติํ เยว อนุภวนฺติ, เกจิ ทฺเว ตโย ทิวเส วีติวตฺเต อนุภวนฺติ, สพฺเพปิ เต ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิปากํ อนุภวนฺติฯ อตฺถิ ปน, ภนฺเต นาคเสน, โกจิ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา จตุนฺนํ วา ปญฺจนฺนํ วา ทสนฺนํ วา สตสฺส วา สหสฺสสฺส วา สตสหสฺสสฺส วา สปริวารํ ทานํ ทตฺวา ทิฏฺฐธมฺมิกํ โภคํ วา ยสํ วา สุขํ วา อนุภวิตา สีเลน วา อุโปสถกมฺเมน วา’’ติ?

‘‘อตฺถิ, มหาราช , จตฺตาโร ปุริสา ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ทิฏฺเฐว ธมฺเม เตเนว สรีรเทเหน ติทสปุเร สมนุปฺปตฺตา’’ติ [ยสมนุปตฺตาติ (สี. ปี.)]ฯ ‘‘โก จ โก จ ภนฺเต’’ติ? ‘‘มนฺธาตา, มหาราช, ราชา, นิมิ ราชา, สาธีโน ราชา, คุตฺติโล จ คนฺธพฺโพ’’ติฯ

‘‘ภนฺเต นาคเสน, อเนเกหิ ตํ ภวสหสฺเสหิ อนฺตริตํ, ทฺวินฺนมฺเปตํ อมฺหากํ [ทีปิตํ, อมฺหากมฺเปตํ (ก.)] ปโรกฺขํ, ยทิ สมตฺโถสิ วตฺตมานเก ภเว ภควโต ธรมานกาเล กเถหี’’ติ? ‘‘วตฺตมานเกปิ, มหาราช, ภเว ปุณฺณโก ทาโส เถรสฺส สาริปุตฺตสฺส โภชนํ ทตฺวา ตทเหว เสฏฺฐิฏฺฐานํ อชฺฌุปคโต, โส เอตรหิ ปุณฺณโก เสฏฺฐีติ ปญฺญายิ, โคปาลมาตา เทวี อตฺตโน เกเส วิกฺกิณิตฺวา ลทฺเธหิ อฏฺฐหิ กหาปเณหิ เถรสฺส มหากจฺจายนสฺส อตฺตฏฺฐมกสฺส ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา ตทเหว รญฺโญ จนฺทปชฺโชตสฺส [อุเทนสฺส (สี. ปี.)] อคฺคมเหสิฏฺฐานํ ปตฺตาฯ สุปฺปิยา อุปาสิกา อญฺญตรสฺส คิลานภิกฺขุโน อตฺตโน อูรุมํเสน ปฏิจฺฉาทนียํ ทตฺวา ทุติยทิวเส เยว รูฬฺหวณา สญฺฉวี [สจฺฉวี (สี. ปี.)] อโรคา ชาตาฯ มลฺลิกา เทวี ภควโต อาภิโทสิกํ กุมฺมาสปิณฺฑํ ทตฺวา ตทเหว รญฺโญ โกสลสฺส อคฺคมเหสี ชาตาฯ สุมโน มาลากาโร อฏฺฐหิ สุมนปุปฺผมุฏฺฐีหิ ภควนฺตํ ปูเชตฺวา ตํ ทิวสํ เยว มหาสมฺปตฺติํ ปตฺโตฯ

เอกสาฏโก พฺราหฺมโณ อุตฺตรสาฏเกน ภควนฺตํ ปูเชตฺวา ตํ ทิวสํ เยว สพฺพฏฺฐกํ ลภิ, สพฺเพเปเต, มหาราช, ทิฏฺฐธมฺมิกํ โภคญฺจ ยสญฺจ อนุภวิํสู’’ติฯ

‘‘ภนฺเต นาคเสน, วิจินิตฺวา ปริเยสิตฺวา ฉ ชเน เยว อทฺทสาสี’’ติฯ ‘‘อาม, มหาราชา’’ติฯ ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, อกุสลํ เยว อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา กุสลํฯ อหญฺหิ, ภนฺเต นาคเสน, เอกทิวสํ เยว ทสปิ ปุริเส ปสฺสามิ ปาปสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน สูเลสุ อาโรเปนฺเต, วีสมฺปิ ติํสมฺปิ จตฺตาลีสมฺปิ ปญฺญาสมฺปิ ปุริสสตมฺปิ ปุริสสหสฺสมฺปิ ปสฺสามิ ปาปสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน สูเลสุ อาโรเปนฺเตฯ นนฺทกุลสฺส, ภนฺเต นาคเสน, ภทฺทสาโล นาม เสนาปติปุตฺโต อโหสิฯ เตน จ รญฺญา จนฺทคุตฺเตน สงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสิฯ ตสฺมิํ โข ปน, ภนฺเต นาคเสน, สงฺคาเม อุภโต พลกาเย อสีติกพนฺธรูปานิ อเหสุํ, เอกสฺมิํ กิร สีสกพนฺเธ ปริปาเต [ปริปุณฺเณ (สพฺพตฺถ)] เอกํ กพนฺธรูปํ อุฏฺฐหติ, สพฺเพเปเต ปาปสฺเสว กมฺมสฺส วิปาเกน อนยพฺยสนํ อาปนฺนาฯ อิมินาปิ, ภนฺเต นาคเสน, การเณน ภณามิ อกุสลํ เยว อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา กุสล’’นฺติฯ

‘‘สุยฺยติ, ภนฺเต นาคเสน, อิมสฺมิํ พุทฺธสาสเน โกสเลน รญฺญา อสทิสทานํ ทินฺน’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, สุยฺยตี’’ติฯ ‘‘อปิ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, โกสลราชา ตํ อสทิสํ ทานํ ทตฺวา ตโตนิทานํ กญฺจิ ทิฏฺฐธมฺมิกํ โภคํ วา ยสํ วา สุขํ วา ปฏิลภี’’ติ [ปฏิลภตีติ (ก.)]? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติฯ ‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, โกสลราชา เอวรูปํ อนุตฺตรํ ทานํ ทตฺวาปิ น ลภิ [น ลภติ (ก.)] ตโตนิทานํ กญฺจิ ทิฏฺฐธมฺมิกํ โภคํ วา ยสํ วา สุขํ วา, เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, อกุสลํ เยว อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา กุสล’’นฺติฯ

‘‘ปริตฺตตฺตา, มหาราช, อกุสลํ ขิปฺปํ ปริณมติ, วิปุลตฺตา กุสลํ ทีเฆน กาเลน ปริณมติ, อุปมายปิ, มหาราช, เอตํ อุปปริกฺขิตพฺพํฯ

ยถา, มหาราช, อปรนฺเต ชนปเท กุมุทภณฺฑิกา นาม ธญฺญชาติ มาสลูนา [มาสปูรา (ก.)] อนฺโตเคหคตา โหติ, สาลโย ฉปฺปญฺจมาเสหิ ปริณมนฺติ , กิํ ปเนตฺถ, มหาราช, อนฺตรํ โก วิเสโส กุมุทภณฺฑิกาย จ สาลีนญฺจา’’ติ? ‘‘ปริตฺตตฺตา, ภนฺเต, กุมุทภณฺฑิกาย, วิปุลตฺตา จ สาลีนํฯ สาลโย, ภนฺเต นาคเสน, ราชารหา ราชโภชนํ, กุมุทภณฺฑิกา ทาสกมฺมกรานํ โภชน’’นฺติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ปริตฺตตฺตา อกุสลํ ขิปฺปํ ปริณมติ, วิปุลตฺตา กุสลํ ทีเฆน กาเลน ปริณมตี’’ติฯ

‘‘ยํ ตตฺถ, ภนฺเต นาคเสน, ขิปฺปํ ปริณมติ, ตํ นาม โลเก อธิมตฺตํ พลวตรํ, ตสฺมา อกุสลํ พลวตรํ, โน ตถา กุสลํฯ ยถา นาม, ภนฺเต นาคเสน, โย โกจิ โยโธ มหติมหายุทฺธํ ปวิสิตฺวา ปฏิสตฺตุํ อุปกจฺฉเก คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวา ขิปฺปตรํ สามิโน อุปเนยฺย, โส โยโธ โลเก สมตฺโถ สูโร นามฯ โย จ ภิสกฺโก ขิปฺปํ สลฺลํ อุทฺธรติ โรคมปเนติ, โส ภิสกฺโก เฉโก นามฯ โย คณโก สีฆสีฆํ คเณตฺวา ขิปฺปํ ทสฺสยติ, โส คณโก เฉโก นามฯ โย มลฺโล ขิปฺปํ ปฏิมลฺลํ อุกฺขิปิตฺวา อุตฺตานกํ ปาเตติ, โส มลฺโล สมตฺโถ สูโร นามฯ เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยํ ขิปฺปํ ปริณมติ กุสลํ วา อกุสลํ วา, ตํ โลเก อธิมตฺตํ พลวตร’’นฺติฯ

‘‘อุภยมฺปิ ตํ, มหาราช, กมฺมํ สมฺปรายเวทนียเมว, อปิ จ โข อกุสลํ สาวชฺชตาย ขเณน ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ โหติ, ปุพฺพเกหิ, มหาราช, ขตฺติเยหิ ฐปิโต เอโส นิยโม ‘โย ปาณํ หนติ, โส ทณฺฑารโห…เป.… โย อทินฺนํ อาทิยติ…เป.… โย ปรทารํ คจฺฉติ…เป.… โย มุสา ภณติ…เป.… โย คามํ ฆาเตติ…เป.… โย ปนฺถํ ทูเสติ…เป.… โย นิกติํ กโรติ…เป.… โย วญฺจนํ กโรติ, โส ทณฺฑารโห วธิตพฺโพ เฉตฺตพฺโพ เภตฺตพฺโพ หนฺตพฺโพ’ติฯ ตํ เต อุปาทาย วิจินิตฺวา วิจินิตฺวา ทณฺเฑนฺติ วเธนฺติ ฉินฺทนฺติ ภินฺทนฺติ หนนฺติ จ, อปิ นุ, มหาราช, อตฺถิ เกหิจิ ฐปิโต นิยโม ‘โย ทานํ วา เทติ, สีลํ วา รกฺขติ, อุโปสถกมฺมํ วา กโรติ, ตสฺส ธนํ วา ยสํ วา ทาตพฺพ’นฺติ; อปิ นุ ตํ วิจินิตฺวา วิจินิตฺวา ธนํ วา ยสํ วา เทนฺติ, โจรสฺส กตกมฺมสฺส วธพนฺธนํ วิยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘ยทิ, มหาราช, ทายกานํ วิจินิตฺวา วิจินิตฺวา ธนํ วา ยสํ วา ทเทยฺยุํ, กุสลมฺปิ ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ ภเวยฺย, ยสฺมา จ โข, มหาราช, ทายเก น วิจินนฺติ ‘ธนํ วา ยสํ วา ทสฺสามา’ติ, ตสฺมา กุสลํ น ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํฯ

อิมินา, มหาราช, การเณน อกุสลํ ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ, สมฺปราเยว โส อธิมตฺตํ พลวตรํ เวทนํ เวทยตี’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, ตวาทิเสน พุทฺธิมนฺเตน วินา เนโส ปญฺโห สุนิพฺเพฐิโย, โลกิกํ, ภนฺเต นาคเสน, โลกุตฺตเรน วิญฺญาปิต’’นฺติฯ

กุสลากุสลพลวตรปญฺโห ตติโยฯ

4. ปุพฺพเปตาทิสปญฺโห

[4] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิเม ทายกา ทานํ ทตฺวา ปุพฺพเปตานํ อาทิสนฺติ [อุทฺทิสนฺติ (ก. สี.)] ‘อิทํ เตสํ ปาปุณาตู’ติ, อปิ นุ เต กิญฺจิ ตโตนิทานํ วิปากํ ปฏิลภนฺตี’’ติ? ‘‘เกจิ, มหาราช, ปฏิลภนฺติ, เกจิ นปฺปฏิลภนฺตี’’ติฯ ‘‘เก, ภนฺเต, ปฏิลภนฺติ, เก นปฺปฏิลภนฺตี’’ติ? ‘‘นิรยูปปนฺนา, มหาราช, นปฺปฏิลภนฺติ, สคฺคคตา นปฺปฏิลภนฺติ, ติรจฺฉานโยนิคตา นปฺปฏิลภนฺติ, จตุนฺนํ เปตานํ ตโย เปตา นปฺปฏิลภนฺติ วนฺตาสิกา ขุปฺปิปาสิโน นิชฺฌามตณฺหิกา, ลภนฺติ เปตา ปรทตฺตูปชีวิโน, เตปิ สรมานา เยว ลภนฺตี’’ติฯ

‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, ทายกานํ ทานํ วิโสสิตํ [วิโสตํ (สี. ปี.)] โหติ อผลํ, เยสํ อุทฺทิสฺส กตํ ยทิ เต นปฺปฏิลภนฺตี’’ติ? ‘‘น หิ ตํ, มหาราช, ทานํ อผลํ โหติ อวิปากํ, ทายกา เยว ตสฺส ผลํ อนุภวนฺตี’’ติฯ ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, การเณน มํ สญฺญาเปหี’’ติฯ ‘‘อิธ, มหาราช, เกจิ มนุสฺสา มจฺฉมํสสุราภตฺตขชฺชกานิ ปฏิยาเทตฺวา ญาติกุลํ คจฺฉนฺติ, ยทิ เต ญาตกา ตํ อุปายนํ น สมฺปฏิจฺเฉยฺยุํ, อปิ นุ ตํ อุปายนํ วิโสสิตํ คจฺเฉยฺย วินสฺเสยฺย วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สามิกานํ เยว ตํ โหตี’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ทายกา เยว ตสฺส ผลํ อนุภวนฺติฯ ยถา ปน , มหาราช, ปุริโส คพฺภํ ปวิฏฺโฐ อสติ ปุรโต นิกฺขมนมุเข เกน นิกฺขเมยฺยา’’ติฯ ‘‘ปวิฏฺเฐเนว ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ทายกา เยว ตสฺส ผลํ อนุภวนฺตี’’ติฯ ‘‘โหตุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามิ, ทายกา เยว ตสฺส ผลํ อนุภวนฺติ, น มยํ ตํ การณํ วิโลเมมาติฯ