เมนู

3. วีมํสนปญฺโห

[3] ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สลฺลปิสฺสสิ มยา สทฺธิ’’นฺติ? ‘‘สเจ, ตฺวํ มหาราช, ปณฺฑิตวาทํ [ปณฺฑิตวาทา (สี. ปี.)] สลฺลปิสฺสสิ สลฺลปิสฺสามิ, สเจ ปน ราชวาทํ สลฺลปิสฺสสิ น สลฺลปิสฺสามี’’ติฯ ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, ปณฺฑิตา สลฺลปนฺตี’’ติ? ‘‘ปณฺฑิตานํ โข, มหาราช, สลฺลาเป อาเวฐนมฺปิ กยิรติ, นิพฺเพฐนมฺปิ กยิรติ, นิคฺคโหปิ กยิรติ, ปฏิกมฺมมฺปิ กยิรติ, วิสฺสาโสปิ [วิเสโสปิ (สี. ปี.)] กยิรติ, ปฏิวิสฺสาโสปิ กยิรติ, น จ เตน ปณฺฑิตา กุปฺปนฺติ, เอวํ โข, มหาราช, ปณฺฑิตา สลฺลปนฺตี’’ติฯ ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, ราชาโน สลฺลปนฺตี’’ติ? ‘‘ราชาโน โข, มหาราช, สลฺลาเป เอกํ วตฺถุํ ปฏิชานนฺติ, โย ตํ วตฺถุํ วิโลเมติ, ตสฺส ทณฺฑํ อาณาเปนฺติ ‘อิมสฺส ทณฺฑํ ปเณถา’ติ, เอวํ โข, มหาราช, ราชาโน สลฺลปนฺตี’’ติฯ ‘‘ปณฺฑิตวาทาหํ, ภนฺเต, สลฺลปิสฺสามิ, โน ราชวาทํ, วิสฺสฏฺโฐ ภทนฺโต สลฺลปตุ ยถา ภิกฺขุนา วา สามเณเรน วา อุปาสเกน วา อารามิเกน วา สทฺธิํ สลฺลปติ , เอวํ วิสฺสฏฺโฐ ภทนฺโต สลฺลปตุ มา ภายตู’’ติฯ ‘‘สุฏฺฐุ มหาราชา’’ติ เถโร อพฺภานุโมทิฯ

ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ปุจฺฉิสฺสามี’’ติฯ ‘‘ปุจฺฉ มหาราชา’’ติฯ ‘‘ปุจฺฉิโตสิ เม ภนฺเต’’ติฯ ‘‘วิสชฺชิตํ มหาราชา’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, ภนฺเต, ตยา วิสชฺชิต’’นฺติ? ‘‘กิํ ปน, มหาราช, ตยา ปุจฺฉิต’’นฺติฯ

วีมํสนปญฺโห ตติโยฯ

4. อนนฺตกายปญฺโห

[4] อถ โข มิลินฺทสฺส รญฺโญ เอตทโหสิ ‘‘ปณฺฑิโต โข อยํ ภิกฺขุ ปฏิพโล มยา สทฺธิํ สลฺลปิตุํ, พหุกานิ จ เม ฐานานิ ปุจฺฉิตพฺพานิ ภวิสฺสนฺติ, ยาว อปุจฺฉิตานิ เยว ตานิ ฐานานิ ภวิสฺสนฺติ, อถ สูริโย อตฺถํ คมิสฺสติ, ยํนูนาหํ สฺเว อนฺเตปุเร สลฺลเปยฺย’’นฺติฯ อถ โข ราชา เทวมนฺติยํ เอตทโวจ ‘‘เตน หิ, ตฺวํ เทวมนฺติย, ภทนฺตสฺส อาโรเจยฺยาสิ ‘สฺเว อนฺเตปุเร รญฺญา สทฺธิํ สลฺลาโป ภวิสฺสตี’’’ติฯ อิทํ วตฺวา มิลินฺโท ราชา อุฏฺฐายาสนา เถรํ นาคเสนํ อาปุจฺฉิตฺวา รถํ อภิรูหิตฺวา ‘‘นาคเสโน นาคเสโน’’ติ สชฺฌายํ กโรนฺโต ปกฺกามิฯ

อถ โข เทวมนฺติโย อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ราชา, ภนฺเต, มิลินฺโท เอวมาห ‘สฺเว อนฺเตปุเร รญฺญา สทฺธิํ สลฺลาโป ภวิสฺสตี’’’ติฯ ‘‘สุฏฺฐู’’ติ เถโร อพฺภานุโมทิฯ อถ โข ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เทวมนฺติโย จ อนนฺตกาโย จ มงฺกุโร จ สพฺพทินฺโน จ เยน มิลินฺโท ราชา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ มิลินฺทํ เอตทโวจุํ ‘‘อาคจฺฉตุ, มหาราช, ภทนฺโต นาคเสโน’’ติ ? ‘‘อาม อาคจฺฉตู’’ติฯ ‘‘กิตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ อาคจฺฉตู’’ติ? ‘‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ อาคจฺฉตู’’ติฯ

อถ โข สพฺพทินฺโน อาห ‘‘อาคจฺฉตุ, มหาราช, ทสหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิ’’นฺติ, ทุติยมฺปิ โข ราชา อาห ‘‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ อาคจฺฉตู’’ติ ฯ ทุติยมฺปิ โข สพฺพทินฺโน อาห ‘‘อาคจฺฉตุ, มหาราช, ทสหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิ’’นฺติฯ

ตติยมฺปิ โข ราชา อาห ‘‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ อาคจฺฉตู’’ติฯ ตติยมฺปิ โข สพฺพทินฺโน อาห ‘‘อาคจฺฉตุ, มหาราช, ทสหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิ’’นฺติฯ ‘‘สพฺโพ ปนายํ สกฺกาโร ปฏิยาทิโต, อหํ ภณามิ ‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ อาคจฺฉตู’ติฯ อยํ, ภเณ สพฺพทินฺโน, อญฺญถา ภณติ, กิํ นุ มยํ นปฺปฏิพลา ภิกฺขูนํ โภชนํ ทาตุ’’นฺติ? เอวํ วุตฺเต สพฺพทินฺโน มงฺกุ อโหสิฯ

อถ โข เทวมนฺติโย จ อนนฺตกาโย จ มงฺกุโร จ เยนายสฺมา นาคเสโน เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจุํ ‘‘ราชา, ภนฺเต, มิลินฺโท เอวมาห ‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ อาคจฺฉตู’’’ติฯ อถ โข อายสฺมา นาคเสโน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อสีติยา ภิกฺขุสหสฺเสหิ สทฺธิํ สาคลํ ปาวิสิฯ

อถ โข อนนฺตกาโย อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ นิสฺสาย คจฺฉนฺโต อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘นาคเสโน’ติ, กตโม เอตฺถ, นาคเสโน’’ติ? เถโร อาห ‘‘โก ปเนตฺถ ‘นาคเสโน’ติ มญฺญสี’’ติ? ‘‘โย โส, ภนฺเต, อพฺภนฺตเร วาโต ชีโว ปวิสติ จ นิกฺขมติ จ, โส ‘นาคเสโน’ติ มญฺญามี’’ติฯ ‘‘ยทิ ปเนโส วาโต นิกฺขมิตฺวา นปฺปวิเสยฺย, ปวิสิตฺวา น นิกฺขเมยฺย, ชีเวยฺย นุ โข โส ปุริโส’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ ฯ ‘‘เย ปนิเม สงฺขธมกา สงฺขํ ธเมนฺติ, เตสํ วาโต ปุน ปวิสตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เย ปนิเม วํสธมกา วํสํ ธเมนฺติ, เตสํ วาโต ปุน ปวิสตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เย ปนิเม สิงฺคธมกา สิงฺคํ ธเมนฺติ, เตสํ วาโต ปุน ปวิสตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติฯ ‘‘อถ กิสฺส ปน เตน น มรนฺตี’’ติฯ ‘‘นาหํ ปฏิพโล ตยา วาทินา สทฺธิํ สลฺลปิตุํ, สาธุ, ภนฺเต, อตฺถํ ชปฺเปหี’’ติฯ ‘‘เนโส ชีโว, อสฺสาสปสฺสาสา นาเมเต กายสงฺขารา’’ติ เถโร อภิธมฺมกถํ กเถสิฯ อถ อนนฺตกาโย อุปาสกตฺตํ ปฏิเวเทสีติฯ

อนนฺตกายปญฺโห จตุตฺโถฯ

5. ปพฺพชฺชปญฺโห

[5] อถ โข อายสฺมา นาคเสโน เยน มิลินฺทสฺส รญฺโญ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ สปริสํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา เอกเมกํ ภิกฺขุํ เอกเมเกน ทุสฺสยุเคน อจฺฉาเทตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ติจีวเรน อจฺฉาเทตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน ทสหิ, ภิกฺขูหิ สทฺธิํ อิธ นิสีทถ, อวเสสา คจฺฉนฺตู’’ติฯ

อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ วิทิตฺวา อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กิมฺหิ โหติ กถาสลฺลาโป’’ติ? ‘‘อตฺเถน มยํ, มหาราช, อตฺถิกา, อตฺเถ โหตุ กถาสลฺลาโป’’ติฯ

ราชา อาห ‘‘กิมตฺถิยา, ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา, โก จ ตุมฺหากํ ปรมตฺโถ’’ติฯ เถโร อาห ‘‘กินฺติ, มหาราช, อิทํ ทุกฺขํ นิรุชฺเฌยฺย, อญฺญญฺจ ทุกฺขํ น อุปฺปชฺเชยฺยาติฯ เอตทตฺถา, มหาราช, อมฺหากํ ปพฺพชฺชา, อนุปาทา ปรินิพฺพานํ โข ปน อมฺหากํ ปรมตฺโถ’’ติฯ

‘‘กิํ ปน, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพ เอตทตฺถาย ปพฺพชนฺตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, เกจิ เอตทตฺถาย ปพฺพชนฺติ, เกจิ ราชาภินีตา [ราชภีติตา (สี.)] ปพฺพชนฺติ, เกจิ โจราภินีตา [โจรภีติตา (สี.)] ปพฺพชนฺติ, เกจิ อิณฏฺฏา ปพฺพชนฺติ, เกจิ อาชีวิกตฺถาย ปพฺพชนฺติ, เย ปน สมฺมา ปพฺพชนฺติ, เต เอตทตฺถาย ปพฺพชนฺตี’’ติฯ

‘‘ตฺวํ ปน, ภนฺเต, เอตทตฺถาย ปพฺพชิโตสี’’ติ? ‘‘อหํ โข, มหาราช, ทหรโก สนฺโต ปพฺพชิโต, น ชานามิ อิมสฺส นามตฺถาย ปพฺพชามีติ, อปิ จ โข เม เอวํ อโหสิ ‘ปณฺฑิตา อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา, เต มํ สิกฺขาเปสฺสนฺตี’ติ, สฺวาหํ เตหิ สิกฺขาปิโต ชานามิ จ ปสฺสามิ จ ‘อิมสฺส นามตฺถาย ปพฺพชฺชา’’’ติฯ

‘‘กลฺโลสิ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติฯ

ปพฺพชฺชปญฺโห ปญฺจโมฯ