เมนู

7. ฆฏิการปญฺโห

[7] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ สพฺพํ เตมาสํ อากาสจฺฉทนํ อฏฺฐาสิ, น เทโวติวสฺสี’ติฯ ปุน จ ภณิตํ ‘กสฺสปสฺส ตถาคตสฺส [ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส (ม. นิ. 2.289)] กุฏิ โอวสฺสตี’ติฯ กิสฺส ปน, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคตสฺส เอวมุสฺสนฺนกุสลมูลสฺส [เอวรูปสฺส อุสฺสนฺนกุสลมูลสฺส (ก.)] กุฏิ โอวสฺสติ, ตถาคตสฺส นาม โส อานุภาโว อิจฺฉิตพฺโพ? ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ อโนวสฺสํ อากาสจฺฉทนํ อโหสิ, เตน หิ ‘ตถาคตสฺส กุฏิ โอวสฺสตี’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉาฯ ยทิ ตถาคตสฺส กุฏิ โอวสฺสติ, เตน หิ ‘ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ อโนวสฺสกํ อโหสิ อากาสจฺฉทน’นฺติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉาฯ อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปญฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติฯ

‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ สพฺพํ เตมาสํ อากาสจฺฉทนํ อฏฺฐาสิ, น เทโวติวสฺสี’ติฯ ภณิตญฺจ ‘กสฺสปสฺส ตถาคตสฺส กุฏิ โอวสฺสตี’ติฯ ฆฏิกาโร, มหาราช, กุมฺภกาโร สีลวา กลฺยาณธมฺโม อุสฺสนฺนกุสลมูโล อนฺเธ ชิณฺเณ มาตาปิตโร โปเสติ, ตสฺส อสมฺมุขา อนาปุจฺฉาเยวสฺส ฆเร ติณํ หริตฺวา ภควโต กุฏิํ ฉาเทสุํ, โส เตน ติณหรเณน อกมฺปิตํ อสญฺจลิตํ สุสณฺฐิตํ วิปุลมสมํ ปีติํ ปฏิลภติ, ภิยฺโย โสมนสฺสญฺจ อตุลํ อุปฺปาเทสิ ‘อโห วต เม ภควา โลกุตฺตโม สุวิสฺสตฺโถ’ติ, เตน ตสฺส ทิฏฺฐธมฺมิโก วิปาโก นิพฺพตฺโตฯ น หิ, มหาราช, ตถาคโต ตาวตเกน วิกาเรน จลติฯ

‘‘ยถา, มหาราช, สิเนรุ คิริราชา อเนกสตสหสฺสวาตสมฺปหาเรนปิ น กมฺปติ น จลติ, มโหทธิ วรปฺปวรสาคโร อเนกสตนหุตมหาคงฺคาสตสหสฺเสหิปิ น ปูรติ น วิการมาปชฺชติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต น ตาวตเกน วิกาเรน จลติฯ

‘‘ยํ ปน, มหาราช, ตถาคตสฺส กุฏิ โอวสฺสติ, ตํ มหโต ชนกายสฺส อนุกมฺปายฯ

ทฺเวเม, มหาราช, อตฺถวเส สมฺปสฺสมานา ตถาคตา สยํ นิมฺมิตํ ปจฺจยํ นปฺปฏิเสวนฺติ, ‘อยํ อคฺคทกฺขิเณยฺโย สตฺถา’ติ ภควโต ปจฺจยํ ทตฺวา เทวมนุสฺสา สพฺพทุคฺคติโต ปริมุจฺจิสฺสนฺตีติ, ทสฺเสตฺวา วุตฺติํ ปริเยสนฺตีติ ‘มา อญฺเญ อุปวเทยฺยุ’นฺติฯ อิเม ทฺเว อตฺถวเส สมฺปสฺสมานา ตถาคตา สยํ นิมฺมิตํ ปจฺจยํ นปฺปฏิเสวนฺติฯ ยทิ, มหาราช, สกฺโก วา ตํ กุฏิํ อโนวสฺสํ กเรยฺย พฺรหฺมา วา สยํ วา, สาวชฺชํ ภเวยฺย ตํ เยว กรณํ [การณํ (สี. ปี.)] สโทสํ สนิคฺคหํ, อิเม วิภูตํ [วิภูสํ (สี. ปี.)] กตฺวา โลกํ สมฺโมเหนฺติ อธิกตํ กโรนฺตีติ, ตสฺมา ตํ กรณํ วชฺชนียํฯ น, มหาราช, ตถาคตา วตฺถุํ ยาจนฺติ, ตาย อวตฺถุยาจนาย อปริภาสิยา ภวนฺตี’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติฯ

ฆฏิการปญฺโห สตฺตโมฯ

8. พฺราหฺมณราชวาทปญฺโห

[8] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ตถาคเตน ‘อหมสฺมิ, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณ ยาจโยโค’ติฯ ปุน จ ภณิตํ ‘ราชาหมสฺมิ เสลา’ติฯ ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘อหมสฺมิ, ภิกฺขเว , พฺราหฺมโณ ยาจโยโค’ติ, เตน หิ ‘ราชาหมสฺมิ เสลา’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉาฯ ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘ราชาหมสฺมิ เสลา’ติ, เตน หิ ‘อหมสฺมิ, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณ ยาจโยโค’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉาฯ ขตฺติโย วา หิ ภเวยฺย พฺราหฺมโณ วา, นตฺถิ เอกาย ชาติยา ทฺเว วณฺณา นาม, อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปญฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติฯ

‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘อหมสฺมิ, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณ ยาจโยโค’ติ, ปุน จ ภณิตํ ‘ราชาหมสฺมิ เสลา’ติ, ตตฺถ การณํ อตฺถิ, เยน การเณน ตถาคโต พฺราหฺมโณ จ ราชา จ โหตี’’ติฯ