เมนู

‘‘อปรมฺปิ , ภนฺเต, อุตฺตริํ การณํ พฺรูหิ, เยนาหํ การเณน โอกปฺเปยฺย’’นฺติฯ ‘‘อิธ, มหาราช, ปุริโส ทฏฺฐวิเสน อาสีวิเสน ทฏฺโฐ ภเวยฺย, โส เตน วิสวิกาเรน ปเตยฺย อุปฺปเตยฺย วฏฺเฏยฺย ปวฏฺเฏยฺย, อถญฺญตโร ปุริโส พลวนฺเตน มนฺตปเทน ตํ ทฏฺฐวิสํ อาสีวิสํ อาเนตฺวา ตํ ทฏฺฐวิสํ ปจฺจาจมาเปยฺย, อปิ นุ โข, มหาราช, ตสฺส วิสคตสฺส ปุริสสฺส ตสฺมิํ ทฏฺฐวิเส สปฺเป โสตฺถิเหตุ อุปคจฺฉนฺเต สนฺตาโส อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติฯ อิติ, มหาราช, ตถารูเป อหิมฺหิ โสตฺถิเหตุปิ อุปคจฺฉนฺเต ตสฺส สนฺตาโส อุปฺปชฺชติฯ เอวเมว โข, มหาราช, นิรยา มุจฺจิตุกามานมฺปิ เนรยิกานํ สนฺตานํ มรณภยา สนฺตาโส อุปฺปชฺชติฯ อนิฏฺฐํ, มหาราช, สพฺพสตฺตานํ มรณํ, ตสฺมา เนรยิกา สตฺตา นิรยา ปริมุจฺจิตุกามาปิ มจฺจุโน ภายนฺตี’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติฯ

มจฺจุภายนาภายนปญฺโห ตติโยฯ

4. มจฺจุปาสมุตฺติปญฺโห

[4] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา –

‘‘‘น อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ, น ปพฺพตานํ วิวรํ ปวิสฺส;

น วิชฺชตี โส ชคติปฺปเทโส, ยตฺถฏฺฐิโต มุจฺเจยฺย มจฺจุปาสา’ติฯ

‘‘ปุน ภควตา ปริตฺตา จ อุทฺทิฏฺฐาฯ เสยฺยถิทํ, รตนสุตฺตํ เมตฺตสุตฺตํ ขนฺธปริตฺตํ โมรปริตฺตํ ธชคฺคปริตฺตํ อาฏานาฏิยปริตฺตํ องฺคุลิมาลปริตฺตํฯ ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, อากาสคโตปิ สมุทฺทมชฺฌคโตปิ ปาสาทกุฏิเลณคุหาปพฺภารทริพิลคิริ วิวรปพฺพตนฺตรคโตปิ น มุจฺจติ มจฺจุปาสา, เตน หิ ปริตฺตกมฺมํ มิจฺฉาฯ ยทิ ปริตฺตกรเณน มจฺจุปาสา ปริมุตฺติ ภวติ, เตน หิ ‘น อนฺตลิกฺเข…เป.… มจฺจุปาสา’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉาฯ อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปญฺโห คณฺฐิโตปิ คณฺฐิตโร ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติฯ