เมนู

ว่าด้วยความมัวเมาในลาภ


มานะ ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจความมัวเมาว่า เรามีลาภมากสัตว์ทั้งหลาย
ที่เหลือ (นอกจากเรา) มีลาภน้อย ก็ลาภทั้งหลายของเราประมาณไม่ได้ ดังนี้
ชื่อว่า ความมัวเมาในลาภ.

ว่าด้วยความมัวเมาในสักการะ


มานะ ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจความมัวเมาว่า สัตว์ทั้งหลายย่อมได้ปัจจัย
ใด ๆ เราเท่านั้นที่ได้ปัจจัยมีจีวรเป็นต้นอันประณีตที่เขากระทำดีแล้ว ดังนี้
ชื่อว่า ความมัวเมาในสักการะ.

ว่าด้วยความมัวเมาในความทำความเคารพ


มานะ ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจความมัวเมาว่า ชนทั้งหลายเดินตามไป
ข้างหลังของภิกษุทั้งหลาย ย่อมไม่ไหว้ภิกษุนั้น ด้วยคิดว่า ผู้นี้เป็นสมณะ
ดังนี้บ้าง แต่พวกเขาเหล่านั้นเห็นเราแล้วย่อมไหว้ทีเดียว กระทำความเคารพเรา
เสมือนว่าเป็นฉัตรที่ปักติดอยู่เราในหิน ย่อมกระทำความสำคัญเราว่าเป็นผู้เข้า
ไปหาได้ยากราวกะกองไฟฉะนั้น ดังนี้ ชื่อว่า ความมัวเมาในความทำ
ความเคารพ.


ว่าด้วยความมัวเมาในความเป็นหัวหน้า


มานะ ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจความมัวเมาว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว
ย่อมตัดสินได้ด้วยปากของเราเท่านั้น แม้เมื่อไปภิกขาจาร ก็ทำเราเท่านั้น
ให้ไปข้างหน้า แล้วจึงห้อมล้อมตามไป ดังนี้ ชื่อว่า ความมัวเมาใน
ความเป็นหัวหน้า.

ว่าด้วยความมัวเมาในบริวาร


มานะที่เกิดขึ้นแก่ผู้ครองเรือนผู้มีบริวารมากก่อน ด้วยอำนาจความมัว
เมาว่า "บุรุษร้อยหนึ่งบ้าง บุรุษพันหนึ่งบ้าง ย่อมแวดล้อมเรา" ดังนี้ ส่วน
ที่เกิดขึ้นแก่ผู้ไม่ครองเรือน (คือสมณะ) ด้วยอำนาจความมัวเมาว่า "สมณะ
ร้อยหนึ่งบ้าง สมณะพันหนึ่งบ้าง ย่อมแวดล้อมเรา สมณะที่เหลือมีบริวาร-
น้อย เรามีบริวารมากด้วย มีบริวารดีด้วย" ดังนี้ ชื่อว่า ความมัวเมาใน
บริวาร.


ว่าด้วยความมัวเมาในโภคสมบัติ


ก็โภคสมบัติ ท่านถือเอาด้วย ลาภะ ศัพท์ นั่นแหละแม้ก็จริง ถึงอย่าง
นั้น ท่านก็ถือเอากองแห่งโภคะอันตั้งไว้ในที่นี้อีก เพราะฉะนั้น มานะที่เกิด
ขึ้นด้วยอำนาจความมัวเมาว่า สัตว์ทั้งหลายที่เหลือ (นอกจากเรา) แล้ว ย่อม
ไม่ได้แม้แต่การใช้สอยเพื่อตน ส่วนเรามีทรัพย์เก็บไว้นับไม่ได้ ดังนี้ ชื่อว่า
ความมัวเมาในโภคสมบัติ.


ว่าด้วยความมัวเมาในวรรณะ


คำว่า วณฺณํ ปฏิจฺจ ได้แก่อาศัยวรรณะคือ ผิวพรรณแห่งสรีระบ้าง
วรรณะคือ คุณความดีบ้าง มานะที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจความมัวเมาว่า สัตว์ทั้ง
หลายที่เหลือ (เว้นเรา) มีผิวพรรณไม่ดี มีรูปไม่งาม ส่วนเรามีรูปงามน่าเลื่อม
ใสสัตว์ทั้งหลายที่เหลือไม่มีคุณงามความดี ไม่เป็นที่สรรเสริญ ส่วนเรามีกิตติ
ศัพท์ที่ฟุ้งปรากฏไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ เราเป็น
พระเถระผู้เป็นพหูสูต แม้เพราะเหตุนี้เราเป็นผู้มีศีล แม้เพราะเหตุนี้เราเป็นผู้
ประกอบด้วยองค์คุณแห่งธุดงค์ ดังนี้ เป็นต้น ชื่อว่า ความมัวเมาในวรรณะ