เมนู

ในกาลวิบัติ มีภิกษาหาได้โดยยาก แม้แต่ผลตาล เผือกมันและ
ใบไม้ แต่ในกาลสมบัติ มหาลาภเห็นปานนี้เกิดขึ้นแล้ว ด้วยประการฉะนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมทรงทราบว่า กัลยาณกรรมทั้งหลาย
ไม่อาจเพื่อให้ผล เพราะกาลวิบัติห้ามไว้อย่างนี้ แต่ย่อมให้ผลใน
กาลสมบัติ ดังนี้.

กัลยาณกรรมจำนวนมาก มีอยู่แก่บุคคลแม้อื่นอีก กรรมนั้นไม่พึง
ให้ผลแก่บุคคลผู้ตั้งอยู่ในปโยควิบัติ. แต่บุคคลนั้น ตั้งอยู่เฉพาะในสัมมาปโยคะ
(ความเพียรโดยชอบ) ด้วยกัลยาณกรรมอย่างหนึ่ง คือ ย่อมบำเพ็ญสุจริต 3 ย่อม
รักษาศีล 5 ศีล 10 เมื่อบุคคลเกิดในกาลสมบัติ เป็นพระราชาทั้งหลายผู้ประ-
กอบด้วยเครื่องประดับทั้งปวง กรรมนั้นย่อมส่งราชกัญญาทั้งหลายอันสมควร
แก่พระราชานั้น ย่อมส่งซึ่งบรรณาการนั้น ๆ อันต่างด้วยสิ่งมีค่า มียานพาหนะ
แก้วมณี ทองคำ และเงิน เป็นต้น ให้. แม้เขาถึงการบรรพชา ย่อมมียศ
ใหญ่ มีอานุภาพใหญ่. ในข้อนั้นมีเรื่องนี้ เป็นอุทาหรณ์

เรื่องพระเจ้ากูฏกัณณราช


ได้ยินว่า พระเจ้ากูฏกัณณราช ทรงรักใคร่ พระจูฬสุธัมมเถระ
ผู้อาศัยอยู่ในกัณณคาม ใกล้ภูเขา. พระราชานั้น เมื่อประทับอยู่ใกล้หนองน้ำ
มีดอกอุบล (ในอุปปลวาปี) รับส่งให้นิมนต์พระเถระมา. พระเถระมาแล้ว
อาศัยอยู่ในวิหารชื่อว่ามาลาราม. พระราชาตรัสถามมารดาของพระเถระว่า
พระเถระย่อมพอใจในอาหารประเภทไหน ดังนี้. มารดาของพระเถระ ทูลว่า
ข้าแต่มหาราช พระเถระพอใจในเผือก ดังนี้. พระราชารับสั่งให้ราชบุรุษถือ
เผือกไปสู่วิหาร เมื่อถวาย ไม่อาจเพื่อจะทอดพระเนตรดูหน้าของพระเถระ