เมนู

อาศัยแล้วในกาลก่อน มีประการตามที่กล่าวแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้
ด้วยคำว่า ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติญาณํ แม้นี้.
คำว่า สตฺตานํ จุตูปปาเต ญาณํ ได้แก่ ญาณในการจุติและใน
การอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย อธิบายว่า ปัญญาในอัปปนาเทียวอันเป็นขณะแห่ง
จิคดวงหนึ่งซึ่งมีวรรณธาตุของสัตว์ทั้งหลายผู้ตายและเกิดเป็นอารมณ์มีประการ
ตามที่กล่าวแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ด้วยคำว่า สตฺตานํ จุตูปปาเต
ญาณํ
แม้นี้.
คำว่า อาสวานํ ขเย ญาณํ (แปลว่า อาสวักขยญาณ) ได้แก่ ญาณ
เป็นเครื่องกำหนดรู้สัจจะ ก็ญาณนี้เท่านั้นเป็นโลกุตตระ ญาณที่เหลือ 5 เป็น
โลกีย์ ดังนี้แล.
ญาณวัตถุหมวด 6 จบ

อรรถกถาสัตตกนิทเทส


อธิบายญาณวัตถุหมวด 7


พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสซึ่งปัจจเวกขณญาณอันต่างโดยกาล 3 ใน
องค์แห่งปฏิจจสมุปบาท 11 ไว้แต่ละองค์ ด้วยสามารถแห่งความเป็นไปและไม่
เป็นไป โดยนัยว่า ชาติปจฺจยา ชรามรณํ เป็นต้น แล้วก็ตรัสญาณอันใด
นั้นโดยสังเขปอย่างนี้ว่า ความรู้ว่า ธัมมฐิติญาณของบุคคลนั้น ดังนี้อีก โดย
ประการทั้งหลาย มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา เป็นต้น. บรรดาญาณเหล่านั้น
ญาณ 2 หมวด คือ ชรามรณะเกิดเพราะชาติปัจจัย เมื่อชาติไม่มี ชรามรณะ