เมนู

ความรู้ว่า ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย ฯลฯ ความรู้ว่า ภพเกิด
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ฯลฯ ความรู้ว่า อุปาทานเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย
ฯลฯ ความรู้ว่า ตัณหาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย ฯลฯ ความรู้ว่า เวทนา
เกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย ฯลฯ ความรู้ว่า ผัสสะเกิดเพราะสฬายตนะเป็น
ปัจจัย ฯลฯ ความรู้ว่า สฬายตนะเกิดเพราะนามรูปเป็นปัจจัย ฯลฯ ความ
รู้ว่า นามรูปเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ฯลฯ ความรู้ว่า วิญญาณเกิด
เพราะสังขารเป็นปัจจัย ฯลฯ ความรู้ว่า สังขารเกิดเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย
ความรู้ว่า เมื่ออวิชชาไม่มี สังขารก็ไม่มี ความรู้ว่า แม้ในอดีตกาลสังขารก็
เกิดเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ความรู้ว่า แม้ในอดีตกาล เมื่ออวิชชาไม่มี สังขาร
ก็ไม่มี ความรู้ว่า แม้ในอนาคตกาล สังขารก็เกิดเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ความ
รู้ว่า แม้ในอนาคตกาล เมื่ออวิชชาไม่มี สังขารก็ไม่มี ความรู้ว่า ธัมมฐิติญาณ
ของบุคคลนั้น มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มีความ
คลายไปเป็นธรรมดา มีความดับไปเป็นธรรมดา.
เหล่านั้นชื่อว่า ญาณวัตถุในธรรมหมวดละ 7 ละ 7.
ญาณวัตถุหมวดละ 7 ย่อมมีด้วยประการฉะนี้.

อัฏฐกนิทเทส


[837] ในญาณวัตถุ หมวดละ 8 ปัญญาในมรรค 4 ผล 4
เป็นไฉน ?
ปัญญาในโสดาปัตติมรรค ปัญญาในโสดาปัตติผล ปัญญาในสกทาคามิ-
มรรค ปัญญาในสกทาคามิผล ปัญญาในอนาคามิมรรค ปัญญาในอนาคามิผล
ปัญญาในอรหัตมรรค ปัญญาในอรหัตผล.

เหล่านี้ชื่อว่า ปัญญาในมรรค 4 ผล 4.
ญาณวัตถุหมวดละ 8 ย่อมมีด้วยประการฉะนี้.

นวกนิทเทส


[838] ในญาณวัตถุหมวดละ 9 นั้น ปัญญาในอนุปุพพ-
วิหารสมาบัติ 9
เป็นไฉน ?
ปัญญาในปฐมฌานสมาบัติ ปัญญาในทุติยฌานสมาบัติ ปัญญาใน
ตติยฌานสมาบัติ ปัญญาในจตุตถฌานสมาบัติ ปัญญาในอากาสานัญจายตน-
สมาบัติ ปัญญาในวิญญาณัญจายตนสมาบัติ ปัญญาในอากิญจัญญายตนสมาบัติ
ปัญญาในเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ ปัจจเวกขณญาณของโยคาวจรบุคคล
ผู้ออกจากสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ.
เหล่านี้ชื่อว่า ปัญญาในอนุปุพพวิหารสมาบัติ 9.
ญาณวัตถุหมวดละ 9 ย่อมมีด้วยประการฉะนี้.

ทสกนิทเทส


[839] ในญาณวัตถุหมวดละ 10 นั้น.
1. ญาณรู้ธรรมที่เป็นฐานะโดยความเป็นฐานะ และธรรมที่ไม่
ใช่ฐานะโดยความไม่ใช่ฐานะ ตามความเป็นจริง ของพระตถาคต

เป็นไฉน ?
พระตถาคตในโลกนี้ ย่อมทรงทราบว่า ข้อที่บุคคลผู้โสดาบันผู้ถึงพร้อม
ด้วยมัคคทิฏฐิ จะพึงยึดถือสังขารอะไร ๆ โดยความเป็นของเที่ยงนั้น ไม่ใช่
เหตุไม่ใช่ปัจจัย ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้ ย่อมทรงทราบว่า ข้อที่ปุถุชนพึงยึดถือ
สังขารอะไร ๆ โดยความเป็นของเที่ยงนั้นแล นั่นเป็นฐานะที่หาได้ เป็น
ฐานะที่ไม่ได้.