เมนู

เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสสติปัฏฐานไว้ 4
โดยไม่หย่อนไม่ยิ่งด้วยประการฉะนี้แล.


สติปัฏฐานตามนัยแห่งปกรณ์

1
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสติปัฏฐาน 4 เพื่อละวิปัลลาส 4
เป็นต้น.

อีกอย่างหนึ่ง พระองค์ตรัสสติปัฏฐาน 4 ก็เพื่อละสุภวิปัลลาส สุข-
วิปัลลาส นิจจวิปัลลาส อัตตวิปัลลาส คือเข้าใจว่า เป็นสุภะ เป็นสุขะ เป็น
ของเที่ยง เป็นอัตตา.
จริงอยู่ กายเป็น อสุภะ แต่สัตว์ทั้งหลายผู้เข้าใจผิด
ด้วยสุภวิปัลลาสในกายนั้น มีอยู่. พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสสติปัฏฐานที่ 1 ไว้
เพื่อจะให้สัตว์เหล่านั้นละวิปัลลาสนั้น โดยการแสดงถึงความเป็นอสุภะในกาย.
อนึ่ง บรรดาธรรมทั้งหลาย มีเวทนาเป็นต้น แม้อันสัตว์ถือเอาแล้วว่า เป็น
สุข เป็นของเที่ยง เป็นอัตตา ที่จริงเวทนาเป็นทุกข์ จิตก็ไม่เที่ยง ธรรมทั้ง
หลายก็เป็นอนัตตา. แต่สัตว์ทั้งหลายผู้เข้าใจผิดมีความเห็นคลาดเคลื่อนในธรรม
ทั้งหลายมีเวทนาเป็นต้นเหล่านั้นว่า เป็นสุข เป็นของเที่ยง เป็นอัตตา. พระผู้
มีพระภาคเจ้าตรัสสติปัฏฐาน 3 ที่เหลือไว้ก็เพื่อจะให้สัตว์เหล่านั้นละวิปัลลาส
นั้นโดยการแสดงถึงความเป็นทุกข์ เป็นต้น ในธรรมมีเวทนาเป็นต้นเหล่านั้น
พึงทราบว่าได้ตรัสสติปัฏฐานไว้ 4 เท่านั้น ไม่หย่อนไม่ยิ่งดังนี้ เพื่อ
ละวิปัลลาสในความเห็นว่าเป็นสุภะ เป็นสุข เป็นของเที่ยง เป็นอัตตา อย่างนี้
ด้วยประการฉะนี้. ก็เพื่อการละวิปัลลาสเท่านั้นก็หาไม่ โดยที่แท้ พึงทราบว่า
พระองค์ตรัสสติปัฏฐานไว้ 4 เพื่อละโอฆะ 4 โยคะ 4 อาสวะ 4 คันถะ 4
อุปาทาน 4 อคติ 4 และเพื่อให้กำหนดรู้อาหาร 4 ด้วย.
นัยแห่งปกรณ์ มีเพียงเท่านี้

1. นัยนี้รจนาขึ้นโดยภาษาของชาวเกาะลังกา