เมนู

วรรณนาปัญหาปุจฉกะ


ก็ในที่นี้สัมมัปปธานวิภังค์ นี้ พึงทราบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
สัมมัปปธานที่เกิดขึ้นเป็นโลกุตตระเท่านั้น. ในปัจหาปุจฉกะ พึงทราบความ
ที่สัมมัปปธานทั้งหลายเป็นกุศลเป็นต้นตามแนวพระบาลีนั่นแหละ. แต่ในอา-
รัมมณติกะทั้งหลาย สัมมัปปธานเหล่านั้นแม้ทั้งหมดเป็นอัปปมาณารัมณะเท่านั้น
เพราะปรารภพระนิพพาน อันเป็นอัปปมาณธรรมเป็นไป ไม่เป็นมัคคารัมมณะ
แต่เป็นมัคคเหตุกะ ด้วยอำนาจสหชาตเหตุ. เป็นมัคคาธิปติ ในกาลเจริญมรรค
เพราะกระทำวีมังสาให้เป็นหัวหน้า. แต่ในมัคคภาวนาที่มีฉันทะและจิตตะเป็น
หัวหน้า ไม่พึงกล่าวว่าเป็นมัคคาธิปติ หรือไม่พึงกล่าวว่า เป็นมัคคาธิปติ เพราะ
ไม่มีความเพียรอื่น จากความเพียรที่เป็นหัวหน้า หรือไม่พึงกล่าวแม้โดยความเป็น
อารมณ์อย่างหนึ่ง ในบรรดาอดีตอารมณ์เป็นต้น. สัมมัปปธานเหล่านั้น ชื่อว่า
เป็นพหิทธารัมมณะ เพราะความที่พระนิพพานเป็นอารมณ์ภายนอก ด้วย
ประการฉะนี้. ในปัญหาปุจฉกะนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสัมมัปปธานทั้งหลาย
เป็นโลกุตตระที่เกิดขึ้นแล้ว เท่านั้น. จริงอยู่ในสุตตันตภาชนีย์ พระสัมมา-
สัมพุทธเจ้าตรัสสัมมัปปธานทั้งหลายไว้ ทั้งที่เป็นโลกิยะและโลกุตตระปนกัน
แต่ในอภิธรรมภาชนีย์และในปัญหาปุจฉกะ ตรัสว่าเป็นโลกุตตระเท่านั้น. แม้
ในสัมมัปปธานวิภังค์นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ทรงนำออกจำแนกแสดงแล้ว 3
ปริวัฏ อย่างนี้ ด้วยประการฉะนี้.
วรรณนาปัจหาปุจฉกะ จบ
อรรถกถาสัมมัปปธานวิภังค์ จบ