พระสุตตันตปิฎก
ขุททกนิกาย พุทธวงศ์
เล่มที่ 9 ภาคที่ 2
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
รัตนจังกมนกัณฑ์
ทรงเนรมิตรัตนจงกรม
[1] ท้าวสหัมบดีพรหม เจ้าโลก ประคองอัญชลี
ทูลขอพรอันยอดเยี่ยมว่า หมู่สัตว์ในโลกนี้ที่มีกิเลสดุจ
ธุลีในดวงตาน้อย ยังมีอยู่ ขอทรงเอ็นดูแสดงธรรม
โปรดหมู่สัตว์นี้ด้วยเถิด.
[พระผู้มีพระภาคเจ้า เจ้าโลก ผู้สูงสุดในนรชน
อันหมู่พรหมผู้ประคองอัญชลีทูลขอว่า หมู่ปราชญ์ใน
โลกนี้ ที่มีกิเลสดุจธุลีในดวงตาน้อยยังมีอยู่ ขอทรง
เอ็นดูแสดงธรรมโปรดหมู่สัตว์นี้ด้วยเถิด ข้าแต่พระ
ผู้นำ ขอพระสุคตโปรดแสดงธรรม โปรดแสดง
อมตบท โปรดแสดงธรรมเพื่ออนุเคราะห์โลกทั้งหลาย] พระตถาคต ผู้มีวิชชาและจรณะพรั่งพร้อมแล้ว
ผู้คงที่ ผู้ทรงความรุ่งโรจน์ ทรงพระวรกายสุดท้าย
ไม่มีผู้เปรียบ ทรงเกิดพระกรุณาในสัตว์ทั้งปวง.
[พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้พระศาสดาทรงสดับคำ
ของพรหมนั้นแล้ว จึงได้มีพระพุทธดำรัสว่า]
ดูก่อนพรหม เราเปิดประตูแห่งอมตนครสำหรับ
ท่านแล้ว ขอสัตว์ที่มีโสตจงปล่อยศรัทธาออกมาเถิด
แต่ก่อนเราเข้าใจว่าจะลำบากเปล่า จึงไม่กล่าวธรรม
อันประณีตที่คล่องแคล่ว ในหมู่มนุษย์.
[สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจอมมุนี ผู้ทรง
อนุเคราะห์เวไนยสัตว์ทั้งหลาย ทรงออกจากต้น
อชปาลนิโครธ เสด็จพุทธดำเนินโดยลำดับ ก็ถึงกรุง
พาราณสี ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งเหนือ
พุทธอาสน์อันประเสริฐนั้น ทรงประกาศพระธรรม-
จักรคือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรคอันอุดม แก่ภิกษุ
ปัญจวัคคีย์. พระผู้มีพระภาคเจ้าประกาศพระธรรม-
จักรนั้นแล้ว ภิกษุปัญจวัคคีย์ คือ โกณฑัญญะ
ภัททิยะ วัปปะ มหานามะ และอัสสชิ ทั้งหมู่เทวดา
พรหม 18 โกฏิ ในครั้งนั้น ก็ตรัสรู้ธรรมในการ
ประชุมครั้งแรก. ภิกษุปัญจวัคคีย์ทั้งหมด อันพระผู้มี
พระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงแนะนำโดยธรรมปริยาย
อื่นตามลำดับ พร้อมทั้งหมู่เทวดาพรหม 18 โกฏิ ใน
ครั้งนั้น โสดาปัตติผล ได้มีในการประชุมครั้งแรก
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จพุทธดำเนินถึงกรุงราชคฤห์.
พระจอมมุนีประทับ ณ พระเวฬุวันมหาวิหาร. พระเจ้า
พิมพิสารทรงสดับข่าว ก็เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ท้าวเธอมีบริวารมากถึง 11 นหุต ทรงบูชาพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า ด้วยเทียน ธูป ของหอมและดอกไม้เป็นต้น.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงอนุบุพพีกถาประกอบด้วย
กามาทีนพในสมาคมนั้นนั่นแล จบเทศนาในครั้งนั้น
สัตว์ 84,000 มีพระราชาเป็นประธาน ก็ตรัสรู้ธรรม.
พระเจ้าสุทโธทนะพระพุทธบิดา ทรงสดับข่าว ก็
ทรงส่งทูต 9 คน พร้อมด้วยบริวาร 9,000 คน. ทูตทั้ง 9
คน พร้อมด้วยบริวาร 9,000 คน ก็บรรลุพระอรหัต
ทูลขอบวชกะพระมุนี. ในที่สุด กาฬุทายีอำมาตย์
ก็ถือเพศภิกษุ พร้อมบริวาร 1,000 คน ท่านจึงทูล
อาราธนาพระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระจอมศากยมุนี ทรงรับอาราธนาแล้ว เสด็จ
เดินทางใหญ่ เสด็จพุทธดำเนินมาโดยลำดับพร้อมด้วย
ภิกษุ 20,000 รูป ก็ลุถึงกรุงกบิลพัศดุ์. พระองค์ทรง
ทำปาฏิหาริย์ ณ ริมฝั่งแม่น้ำโรหิณี. พระผู้มีพระภาค
เจ้า จอมศากยมุนี ประทับนั่งแสดงธรรมคือมหาเวส-
สันดรชาดกโปรดพระพุทธบิดา ท่ามกลางบัลลังก์นั้น.
สัตว์ 84,000 ก็ได้ตรัสรู้ธรรม]
พระประยูรญาติเหล่านี้ พร้อมทั้งเทวดา และ
มนุษย์ไม่รู้ว่า พระพุทธเจ้าผู้สูงสุดในนรชนนี้เป็น
เช่นไร กำลังฤทธิ์และกำลังปัญญาเป็นเช่นไร กำลัง
ของพระพุทธเจ้าเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่โลก เป็น
เช่นไร.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระดำริว่า
พระประยูรญาติเหล่านี้ พร้อมทั้งเทวดา และ
มนุษย์ไม่รู้ดอกว่า พระพุทธเจ้าผู้สูงสุดในนรชนนี้
เป็นเช่นนี้ กำลังฤทธิ์และกำลังปัญญาเป็นเช่นนี้ กำลัง
ของพระพุทธเจ้าเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่โลก เป็น
เช่นนี้.
เอาเถิด จำเราจักแสดงกำลังของพระพุทธเจ้า
อันยอดเยี่ยม จักเนรมิตที่จงกรม ประดับด้วยรัตนะ
ในนภากาศ.
เทวดาภาคพื้นดิน เทวดาชั้นจาตุมหาราช ชั้น
ดาวดึงส์ ชั้นยามา ชั้นดุสิต ชั้นนิมมานรดี ชั้นปรนิม-
มิตวสวัตดี ทั้งเทวดาเนื่องในหมู่พรหม ก็ร่าเริงพากัน
ทำเสียงกึกก้องอย่างเต็มที่.
แผ่นดินมนุษยโลก พร้อมทั้งเทวโลกก็สว่างจ้า
โลกันตริกนรกอันหนาก็ปิดกั้นไว้ไม่ได้ ความมืดมิด
ก็ได้ถูกขจัดออกไป. เทวดาและมนุษย์ทั้งสัตว์นรก
ต่างก็เห็นปาฏิหาริย์อันอัศจรรย์ ถึงปีติปราโมชอย่าง
ยิ่ง.
แสงสว่างอันโอฬารไพบูลย์ ได้เกิดในโลกนี้พร้อม
ทั้งเทวดา คนธรรพ์ มนุษย์ รากษส และในโลกอื่น
ทั้งสอง ทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำ ทั้งเบื้องขวางกว้าง
ออกไป.
พระศาสดา ผู้สูงสุดในสัตว์ ผู้ยอดเยี่ยม ผู้นำ
พิเศษ ได้เป็นผู้อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ผู้มี
อานุภาพมาก มีบุญลักษณะนับร้อย ทรงแสดงปาฏิ-
หาริย์อันน่าอัศจรรย์.
[ในสมาคมนั้น พระชินพุทธเจ้าผู้พระศาสดา
เหาะขึ้นไปในพื้นนภากาศ ทรงเนรมิตสิเนรุบรรพต
อันน่ารื่นรมย์เป็นที่จงกรม.
เทวดาในหมื่นโลกธาตุ ก็นอบน้อมพระตถาคต
ในสำนักพระชินเจ้า พากันทำพุทธบูชา]
พระองค์ผู้มีพระจักษุ สูงสุดในนรชนผู้นำโลก
อันเทวดาผู้ประเสริฐทูลวอนแล้ว ทรงพิจารณาเห็น
ประโยชน์ในครั้งนั้น จึงทรงเนรมิตที่จงกรม อันประ-
ดับด้วยรัตนะทั้งหมดสำเร็จลงด้วยดี.
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้นำโลก เป็นผู้ชำนาญใน
ปาฏิหาริย์ 3 คืออิทธิปาฏิหาริย์ อาเทศนาปาฏิหาริย์และ
อนุสาสนีปาฏิหาริย์ จึงทรงเนรมิตที่จงกรม อันประ-
ดับด้วยรัตนะทั้งหมดสำเร็จลงด้วยดี.
ทรงแสดงยอดสิเนรุบรรพตในหมื่นโลกธาตุ เป็น
ประหนึ่งเสาซึ่งตั้งอยู่เรียงกันเป็นรัตนจงกรม ที่จงกรม
สำเร็จด้วยรตนะ.
พระชินเจ้าทรงเนรมิต ที่จงกรมเหลื่อมล้ำหมื่น
โลกธาตุ ที่สองข้างพื้นที่เป็นทองทั้งหมด ณ รัตน-
จงกรมทรงเนรมิตไพรทีทองล้วน ปูด้วยแผ่นกระดาน
ทอง เวียนไปตามจันทันคู่ทั้งสองข้าง.
รัตนจงกรมที่ทรงเนรมิต เกลื่อนกลาดด้วยทราย
แก้วมณี ทรายแก้วมุกดา ส่องแสงสว่างไปทุกทิศ
เหมือนดวงอาทิตย์ขึ้น.
ณ ที่จงกรมนั้น พระชินสัมพุทธเจ้าจอมปราชญ์
ผู้มีมหาปุริสลักษณะ 32 รุ่งโรจน์อยู่ เสด็จจงกรม
เหนือที่จงกรม เทวดาทั้งหมดมาประชุมกัน โปรย
ดอกมณฑารพ ดอกปทุม ดอกปาริฉัตร อันเป็นทิพย์
ลง ณ ที่จงกรม.
หมู่เทพหมื่นโลกธาตุมาประชุมกัน เห็นพระผู้มี
พระภาคเจ้าพระองค์นั้น ก็ยินดีร่าเริงบันเทิงใจ หมอบ
ลงนมัสการ.
เทวดาชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามา ชั้นดุสิต เทพชั้น
นิมมานรดี เทพชั้นปรนิมมิตวสวัตดี เห็นพระผู้นำโลก
ก็พากันดีใจ มีจิตเบิกบาน.