เมนู

โธตกเถราปทานที่ 4 (404)


ว่าด้วยผลแห่งการถวายสะพาน


[406] ในกาลนั้น แม่น้ำคงคาชื่อว่า ภาคีรสี1 ไหลมาจากภูเขา
หิมวันต์ ไหลผ่านไปทางประตูพระนครหังสวดี.

อารามชื่อว่า โสภิคะ มหาชนสร้างไว้อย่างสวยงามใกล้ฝั่ง
แม่น้ำ พระพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ผู้นำของโลก
ประทับอยู่ในอารามนั้น.

พระผู้มีพระภาคเจ้าอันหมู่มนุษย์แวดล้อมแล้ว ประทับนั่ง
ในอารามนั้น ดังพระอินทร์จากดาวดึงส์ ไม่ครั่นคร้ามดุจ
ไกรสรสีหราช.

ข้าแต่พระมหามุนี ข้าพระองค์เป็นพราหมณ์ มีนามชื่อว่า
ฉฬังคะ อยู่ในนครหังสวดีมีชื่ออย่างนั้น.

ในกาลนั้น ศิษย์ 1,800 คนแวดล้อมข้าพระองค์ ข้า-
พระองค์พร้อมด้วยศิษย์เหล่านั้นเข้าไปสู่ฝั่งแม่น้ำ.

ณ ที่นั้น ข้าพระองค์ได้เห็นพระหลายรูป ผู้ไม่คดโกง ผู้
ชำระบาปแล้ว กำลังข้ามแม่น้ำภาคีรสีอยู่ ขณะนั้นข้าพระองค์
คิดอย่างนี้ว่า

บุตรแห่งพระพุทธเจ้าผู้มียศมากเหล่านี้ ข้ามแม่น้ำทั้งเย็น
และเช้า ย่อมทำตนให้ลำบาก ย่อมทำตนให้เดือดร้อน.

บัณฑิตย่อมกล่าวสรรเสริญพระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้เลิศของ
1. อรรถกถาว่า ภาคีรถี.

โลก พร้อมทั้งเทวโลก เครื่องสักการะสำหรับชำระทางคือ
คติในทักษิณาของเราไม่มี.

ถ้าเช่นนั้น เราพึงทำสะพานข้ามแม่น้ำถวายแด่พระพุทธ-
เจ้าผู้ประเสริฐสุด ครั้นเราให้ทำสะพานนี้แล้วจะข้ามภพนี้ได้.

ข้าพระองค์ได้ให้ทรัพย์ 100 บ้าง 1,000 บ้าง แล้วให้ทำ
สะพาน ด้วยข้าพระองค์เชื่อว่า กุศลที่เราทำแล้วนี้จักไพบูลย์.

ข้าพระองค์ให้ทำสะพานนั้นเสร็จแล้ว ได้เข้าไปเฝ้าพระ-
พุทธเจ้าผู้นำของโลก ประนมกรอัญชลีเหนือเศียร แล้วได้
กราบทูลดังนี้ว่า

ข้าพระองค์ให้ทรัพย์ 100 บ้าง 1,000 บ้าง แล้วให้ทำ
สะพานนี้.

ข้าแต่พระมหามุนี ขอได้โปรดทรงรับสะพานใหญ่ เพื่อ
ประโยชน์แก่พระองค์เถิด พระเจ้าข้า.

พระพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ทรงรู้แจ้งโลก ผู้ควร
รับเครื่องบูชา ประทับนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์แล้ว ได้ตรัส
พระคาถาเหล่านี้ว่า

ผู้ใดมีความเลื่อมใส ได้ให้ทำสะพานด้วยมือของตนให้
แก่เรา เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงพึงเรากล่าว

ผู้นี้แม้ตกลงในเหวก็ดี จากภูเขาก็ดี จากต้นไม้ก็ดี แม้
จุติแล้ว จักได้ที่ตั้งมั่น นี้เป็นผลแห่งการให้สะพาน.

ศัตรูทั้งหลายย่อมข่มขี่ไม่ได้ เปรียบเหมือนลมข่มขู่ต้นไทร

อันมีรากและย่านงอกงามไม่ได้ฉะนั้น นี้เป็นผลแห่งการถวาย
สะพาน.

พวกโจรย่อมข่มเหงไม่ได้ กษัตริย์ทั้งหลาย ย่อมไม่ดูหมิ่น
ผู้นี้จักข้ามพ้นศัตรูทั้งปวง นี้เป็นผลแห่งการถวายสะพาน.

ผู้นี้ประกอบด้วยบุญกรรม ถึงจะอยู่ในโอกาสกลางแจ้ง
ถูกแดดกล้าจัดแผดเผา ก็จักไม่มีเวทนา.

ในเทวโลกก็ดี ในมนุษยโลกก็ดี ยานช้างอันตกแต่งดี
แล้ว ดังจะรู้ความดำริของผู้นั้น จักบังเกิดในทันที.

ม้าสินธพ 1,000 ม้าอันเป็นพาหนะมีกำลังวิ่งเร็วดังลม จัก
คอยรับใช้ทั้งเวลาเย็นและเช้า นี้เป็นผลแห่งการถวายสะพาน.

ผู้นี้มาเกิดเป็นมนุษย์ จักเป็นผู้มีความสุข แม้ในการเกิด
เป็นมนุษย์นี้ ก็จักมียานช้าง.

ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ พระศาสดามีพระนามว่า โคดม
ซึ่งมีสมภพในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช จักเสด็จอุบัติในโลก.

ผู้นี้จักเป็นทายาทในธรรม ของพระศาสดาพระองค์นั้น
เป็นโอรสอันธรรมนิรมิต จักกำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว เป็น
ผู้ไม่มีอาสวะ นิพพาน.

โอ เราได้ทำกุศลกรรมแล้ว ในพระพุทธเจ้าพระนามว่า
ปทุมุตตระ เราเป็นผู้บรรลุความสิ้นอาสวะ เพราะได้ทำกุศล-
กรรมในพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น.

เราเป็นผู้ทำความเพียร มีตนส่งไปแล้ว สงบระงับ ไม่
มีอุปธิ ตัดกิเลสเครื่องผูกดังช้างตัดเชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มี
อาสวะอยู่.

เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ถอนภพขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว ตัด
กิเลสเครื่องผูกดังช้างตัดเชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่.

การที่เราได้มาในสำนักพระพุทธเจ้าของเรานี้ เป็นการ
มาดีแล้วหนอ วิชชา 3 เราได้บรรลุแล้วโดยลำดับ คำสอน
ของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระโธตกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบโธตกเถราปทาน

404. อรรถกถาโธตกเถราปทาน


พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ 4 ดังต่อไปนี้ :-
อปทานของท่านพระโธตกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า คงฺคา ภาคีรถี
นาน
ดังนี้.
แม้ในเรื่องนั้น ท่านเป็นพราหมณ์ ได้พบเห็นพวกภิกษุ กำลัง
ข้ามแม่น้ำคงคาชื่อภาคีรถีแล้ว มีใจเลื่อมใส ให้ช่างช่วยกันสร้างสะพาน
ข้าม เสร็จแล้วก็มอบถวายแด่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข นี้เท่านั้น
เป็นความแตกต่างกันแล. เนื้อความแห่งคาถาอันแสดงถึงเรื่องผลบุญ
นักศึกษาก็พอจะรู้ได้โดยง่ายตามลำดับแห่งเนื้อความนั่นแล.
จบอรรถกถาโธตกเถราปทาน