ยวกลาปิยเถราปทาที่ 2 (352)
ว่าด้วยผลแห่งการลาดหญ้า
[354] ในกาลนั้น เราเป็นคนเกี่ยวหญ้าอยู่ในนครอรุณวดี ได้
เห็นพระสัมพุทธเจ้าที่หนทาง จึงลาดกำหญ้าถวาย (ให้
ประทับ)
พระพุทธเจ้าพระนามว่า สิขี ผู้ทรงอนุเคราะห์ ทรงมี
พระกรุณาเป็นอัครนายกของโลก ทรงทราบความดำริของเรา
จึงประทับนั่งบนลาดหญ้า.
เราเห็นพระองค์ผู้ปราศจากมลทิน ผู้เพ่งพินิจมาก เป็น
ผู้แนะนำดี เกิดความปราโมทย์แล้วทำกาลกิริยา ณ ที่นั้น.
ในกัปที่ 31 แต่กัปนี้ เราได้ทำกรรมใดในกาลนั้น ด้วย
กรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการลาดหญ้า.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระยวกลาปิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบยวกลาปิยเถราปทาน
กิงสุกปูชกเถราปทานที่ 3 (353)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกทองกวาว
[355] เราได้เห็นต้นทองกวาวกำลังมีดอกบาน จึงประนมกร
อัญชลี ระลึกถึงพระพุทธเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ แล้วบูชา
ในอากาศ.
ในกัปที่ 94 แต่กัปนี้ เราได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกไม้
ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่ง
พุทธบูชา.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระกิงสุกปูชกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบกิงสุกปูชกเถราปทาน
สโกฏกโกรัณฑทายกเถราปทานที่ 4 (354)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาจักรที่รอยพระบาท
[356] เราได้พบรอยพระบาท ที่พระพุทธเจ้า พระนามว่า สิขี
ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของโลกทรงเหยียบไว้ จึงห่มหนังเสือเฉวียงบ่า
ข้างหนึ่ง ได้ไหว้รอยพระพุทธบาทอันประเสริฐแล้ว.