เมนู

ติณมุฏฐิทายกมณิเถราปทานที่ 8 (348)


ว่าด้วยผลแห่งหญ้ากำมือเดียว


[350] มีภูเขาชื่อว่าลัมพกะ อยู่ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมวันต์ พระ-
สัมพุทธเจ้าพระนามว่า อุปติสสะ เสด็จจงกรมอยู่ในที่แจ้ง.

ในกาลก่อนเราเป็นพรานเนื้ออยู่ (เที่ยวไป) ในป่าใหญ่
ได้พบพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ประเสริฐกว่าเทวดา เป็น
สยัมภูผู้ไม่แพ้อะไร ๆ.

ขณะนั้น เรามีจิตเลื่อมใสยิ่งนัก ได้ถวายหญ้ากำมือหนึ่ง
สำหรับประทับนั่ง แด่พระพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณอันใหญ่หลวง
พระองค์นั้น.

ครั้นถวายแด่พระองค์ผู้ประเสริฐกว่าเทวดาแล้ว ยังจิตให้
เลื่อมใสอย่างยิ่ง ถวายบังคมพระสัมพุทธเจ้า แล้วบ่ายหน้า
กลับไปทางทิศอุดร.

พอเราไปได้ไม่นาน สีหะได้เบียดเบียนเรา เราถูกสีหะ
ทำให้ล้มลงแล้ว ทำกาลกิริยา ณ ที่นั้น.

(เพราะ) กรรมที่เราทำแล้ว ในสำนักของพระพุทธเจ้าผู้
ประเสริฐไม่มีอาสวะ เราได้ไปสู่เทวโลก เหมือนกำลังลูกศร
พ้นจากแล่ง.

ในเทวโลกนั้น มีปราสาทงามอันบุญกรรมนิรมิต (ใน
ปราสาทนั้น) มีเครื่องประดับพันหนึ่ง ลูกคลีหนัง 7 ลูก
ธงสีเขียว.

รัศมีของปราสาทนั้นพุ่งออก ขึ้นไปสูงเหมือนพระจันทร์
เราเกลื่อนกล่นด้วยนางเทพกัญญา เบิกบานด้วยวัตถุกามและ
กิเลสกาม.

เราอันกุศลมูลตักเตือนแล้ว จุติจากเทวโลกมาสู่ความ
เป็นมนุษย์แล้ว ได้บรรลุความสิ้นอาสวะ.

ในกัปที่ 94 แต่กัปนี้ เราได้ถวายที่นั่ง ด้วยทานนั้น
เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งหญ้ากำมือเดียว.

คุณวิเศษเหล่านั้น คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระติณมุฏฐิทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบติณมุฏฐิทายกเถราปทาน

ตินทุกผลทายกเถราปทานที่ 9 (349)


ว่าด้วยผลแห่งการถวายผลมะพลับ


[351] เราได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้โชติช่วงดังดอกกรรณิการ์ ปราศ-
จากกิเลสธุลี ข้ามโอฆะได้แล้ว ไม่มีอาสวะ ประทับนั่ง
ในระหว่างภูเขา.