เมนู

สุมนาเวฬิยเถราปทานที่ 8 (328)


ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยพวกมาลัยดอกมะลิ


[330] ชนทั้งปวงมาประชุมกันทำการบูชาใหญ่ แด่พระผู้มี-
พระภาคเจ้าพระนามว่า เวสสภู ผู้เป็นเชษฐบุรุษของโลก
ผู้คงที่.

ในกาลนั้นเราใส่ก้อนปูนขาวแล้ว รางพวงมาลัยดอกมะลิ
ไว้บูชา ข้างหน้าแห่งอาสนะทอง.

ชนทั้งปวงมามุงดูดอกไม้อันอุดม ด้วยดำริว่า ใครบูชา
ดอกไม้นี้แด่พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ผู้คงที่.

เราได้เข้าถึงชั้นนิมมานรดี เพราะจิตอันเลื่อมใสนั้น ได้
เสวยกรรมของตน ที่ตนทำไว้ดีในกาลก่อน.

เราเข้าถึงกำเนิดใด ๆ คือ ความเป็นเทวดาหรือมนุษย์
ย่อมเป็นที่รักของปวงชน นี้เป็นผลแห่งการบูชาด้วยดอกไม้.

เราไม่รู้จักทุคติด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจเลย เรา
ทำการบำรุงแก่ภิกษุทั้งหลายผู้สำรวมแล้ว ผู้มีตบะ.

ด้วยความประพฤติชอบนั้น และด้วยการตั้งจิตมั่น เรา
เป็นผู้ที่รักของปวงชนบูชา นี้เป็นผลแห่งการไม่ด่า.

ในกัปที่ 31 แต่กัปนี้เราได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกไม้
ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่ง
พุทธบูชา.

ในกัปที่ 11แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอมกษัตริย์
ทรงพระนามว่า สหัสสาระ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ
มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระสุมนาเวฬิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบสุมนาเวฬิยเถราปทาน

ปุปผฉัตติยเถรปาทานที่ 9 (329)


ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยฉัตรดอกบัว


[331] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ เชษฐ-
บุรุษของโลก ผู้คงที่ ทรงประกาศสัจจะ ยังสัตว์ทั้งหลาย
ให้ดับอยู่.

เรานำดอกบัวซึ่งเกิดในน้ำ เป็นที่รื่นรมย์ใจ มาทำเป็นฉัตร
ดอกไม้ บูชาแด่พระพุทธเจ้า.

พระศาสดาพระนามว่า สิทธัตถะ ทรงรู้แจ้งโลก เป็น
ผู้สมควรรับเครื่องบูชา ประทับอยู่ ณ ท่ามกลางภิกษุสงฆ์
ได้ตรัสคาถานี้ว่า

ผู้ใดยังจิตให้เลื่อมใส ได้กั้นฉัตรดอกไม้ให้เรา ด้วยความ