สัจจสัญญกเถราปทานที่ 3 (213)
ว่าด้วยผลแห่งสัจสัญญา
[215] พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าเวสสภู ทรงแวดล้อม
ด้วยภิกษุสงฆ์ เมื่อทรงยังมหาชนให้ดับ (ร้อน) จึงแสดง
อริยสัจ.
เราเป็นผู้สมควรได้รับความกรุณาอย่างยิ่ง ได้ไปสู่ที่
ประชุม เรานั้นได้นั่งฟังธรรมของพระศาสดา ครั้นเราฟัง
ธรรมของพระศาสดานั้นแล้ว ได้ไปสู่เทวโลก เราได้อยู่ ใน
เทพบุรีนั้นตลอด 30 กัป.
ในกัปที่ 31 แต่กัปนี้ เราได้สัญญาใดในกาลนั้น ด้วย
การได้สัญญานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งสัจ-
สัญญา.
ในกัปที่ 26 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระองค์
หนึ่ง เป็นจอมแห่งชน มีนามว่า เอกผุสสิตะ มีพละมาก.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระสัจจสัญญกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบสัจจสัญญกเถราปทาน
เอกสัญญาเถราปทานที่ 4 (214)
ว่าด้วยผลแห่งการไหว้ผ้าบังสุกุล
[216] เราได้เห็นผ้าบังสุกุลของพระศาสดาห้อยอยู่บนยอดไม้
จึงได้ประนมกรอัญชลีไหว้ผ้าบังสุกุล.
ในกัปที่ 31 แต่กัปนี้ เราได้สัญญาใดในกาลนั้น ด้วย
การได้สัญญานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธ-
บูชา.
ในกัปที่ 25 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระองค์
หนึ่ง เป็นจอมแห่งชน มีนามว่า อมิตาภะ มีพละมาก.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราได้ทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระเอกสัญญกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้.
จบเอกสัญญกเถราปทาน
รังสิสัญญกเถราปทานที่ 5 (215)
ว่าด้วยผลแห่งการได้สัญญาในพระพุทธเจ้า
[217] เราได้เห็นพระพุทธเจ้าสว่างจ้าดังพระอาทิตย์อุทัย เปล่ง
ปลั่งดังพระจันทร์ องอาจดังเสือโคร่ง ประเสริฐ มีสกุล ใน