เมนู

มัคคทัตติกเถราปทานที่ 6 (176)


ว่าด้วยผลแห่งการโปรยดอกไม้


[178] พระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่า อโนมทัสสี ผู้เป็น
จอมสัตว์ ประเสริฐกว่านระ เสด็จจงกรมอยู่ในที่แจ้ง เพื่อ
ประโยชน์สุขในปัจจุบัน.

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้ายกพระบาทขึ้น ดอกไม้ตั้งอยู่
เบื้องบนแห่งพระพุทธเจ้าผู้งาม เรามีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส
ถวายบังคมแล้วโปรยดอกไม้.

ในกัปที่ 20,000 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ
5 ครั้ง ทรงพระนามว่า ปุปผฉทนิยะ มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระมัคคทัตติกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบมัคคทัตติกเถราปทาน

176. อรรถกถามัคคทัตติกเถราปทาน


อปทานของท่านพระมัคคทัตติกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า อโนมทสฺสี
ภควา
ดังนี้.
แม้ท่านพระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้า
พระองค์ก่อน ๆ ทุก ๆ ภพนั้นจะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระ-

นิพพานเป็นประจำเสมอ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า
อโนมทัสสี ท่านได้เกิดในเรือนอันมีตระกูล เจริญวัยแล้ว ดำรงอยู่ใน
เพศฆราวาส ได้พบเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า อโนมทัสสี
กำลังเสด็จจงกรมท่ามกลายอากาศ และได้พบเห็นความอัศจรรย์ในที่ที่ย่าง-
พระบาทจงกรม จะเรี่ยรายได้ด้วยดอกไม้มากมายแล้ว มีใจเลื่อมใส
โยนดอกไม้ทั้งหลายขึ้นไปบนอากาศ, ดอกไม้เหล่านั้นก็ได้กลายเป็นเพดาน
ปรากฏแล้ว.
ด้วยบุญอันนั้น เขาจึงได้ท่องเที่ยวไปในเฉพาะสุคติทั้งหลายเท่านั้น
ได้รับแต่การบูชาในที่ทั้งปวง ได้เสวยความสุขแล้ว ในพุทธุปบาทกาลนี้
เขาได้เกิดในตระกูลแห่งหนึ่ง ถึงความเป็นหนุ่มโดยลำดับแล้ว เกิดศรัทธา
บวชแล้ว เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวัตรปฏิบัติ ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหันต์
ปรากฏชื่อว่า มัคคทัตติกเถระ เพราะได้บูชาพระพุทธเจ้าผู้เสด็จจงกรม
อยู่แล้ว. ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตนได้ เกิดความโสมนัสใจ เมื่อจะ
ประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำ
เริ่มต้นว่า อโนมทสฺสี ภควา ดังนี้. บทว่า ทิฏฺฐธมฺมสุขตฺถาย ความว่า
ด้วยการจงกรมในอัตภาพนี้ ทำให้ได้รับความสุขทำให้เบาสรีระเป็นต้น.
บทว่า อพฺโภกาสมฺหิ จงฺกมิ ความว่า ได้เสด็จจงกรมในที่แจ้ง คือ
ที่พระลานหลวง, ได้แก่ได้ทำการย่างพระบาทสัญจรไป. บทว่า อุทฺธเต
ปาเท ปุปฺผานิ
ความว่า เมื่อยกพระบาทขึ้นด้วยการจงกรม ดอกไม้
ทั้งหลาย มีดอกปทุมและดอกอุบลเป็นต้น ผุดขึ้นจากแผ่นดิน เรี่ยราย

แล้วในที่จงกรม. บทว่า โสภํ มุทฺธนิ ติฏฺฐเร ความว่า ดอกไม้ทั้งหลาย
เหล่านั้น ตั้งอยู่เบื้องบนของพระพุทธเจ้าผู้งดงามอยู่. คำที่เหลือมี
เนื้อความพอจะรู้ได้ง่ายทีเดียวแล.
จบอรรถกถามัคคทัตติกเถราปทาน

เอกทีปิยเถราปทานที่ 7 (177)


ว่าด้วยผลแห่งการถวายประทีป


[179] เรามีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส ได้ถวายประทีปดวงหนึ่ง
ไว้ที่ไม้สน อันเป็นโพธิพฤกษ์อันอุดม ของพระมุนีพระนามว่า
ปทุมุตตระ.

ในภพที่เกิด เมื่อการสั่งสมบุญเกิดแล้ว เราไม่รู้จักทุคติ
เลย นี้เป็นผลแห่งการถวายประทีป.

ในกัปที่ 16,000 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 4 ครั้ง
ทรงพระนามว่าจันทาภา มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระเอกทีปิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบเอกทีปิยเถราปทาน

177. อรรถกถาเอกทีปิยเถราปทาน


อปทานของท่านพระเอกทีปิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปทุมุตฺตรสฺส
มุนิโน
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้สั่งสมกุศลกรรมทำไว้ในพระชินเจ้าผู้ประเสริฐ