เมนู

ตัมพปุปผิยเถราปทานที่ 2 (152)


ว่าด้วยผลแห่งการบูชาต้นโพธิ์


[154] เราเป็นผู้ประกอบในการทำการงานของบุคคลอื่น ได้ทำ
ความผิดเพียบพร้อมด้วยภัยและเวร จึงวิ่งหนีไปตามชายป่า.

ได้เห็นต้นไม้มีดอกเป็นกลุ่มก้อนบานสะพรั่ง จึงถือเอา
ดอกมีสีแดง ไปเกลี่ยลงที่โพธิพฤกษ์.

ได้กวาดไม้แคฝอย อันเป็นไม้โพธิ์อันอุดมนั้นแล้ว เข้า
ไปนั่งคู้บัลลังก์ (ขัดสมาธิ) ที่โคนโพธิ์.

ชนทั้งหลายแสวงหาทางไปอยู่ ได้มาสู่ที่ใกล้เรา และเรา
เห็นชนเหล่านั้น ณ ที่นั้นแล้ว คำนึงถึงโพธิพฤกษ์อันอุดม.

และเรามีใจผ่องใส ไหว้โพธิพฤกษ์แล้ว ตกลงในเหวที่
น่ากลัว อันลึกหลายชั่วลำตาล.

ในกัปที่ 91 แต่กัปนี้ เราได้บูชาโพธิพฤกษ์ด้วยดอกไม้ใด
ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชา
โพธิพฤกษ์.

และในกัปที่ 3 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช
ทรงพระนามว่าสัมมสิตะ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ
มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.

ทราบว่า ท่านพระตัมพปุปผิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบตัมพปุปผิยเถราปทาน

152. อรรถกถาตัมพปุปผิยเถราปทาน


อปทานของท่านพระตัมพปุปผิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปรกมฺมายเน
ยุตฺโต
ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ท่านก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้า
พระองค์ก่อน ๆ ทุก ๆ ภพนั้นจะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระ-
นิพพานเป็นประจำเสมอ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า
ปิยทัสสี เพราะอกุศลกรรมบางอย่างที่ท่านกระทำไว้ในปางก่อน จึงได้
มาเกิดในตระกูลเข็ญใจ เจริญวัยแล้ว ก็ทำการงานรับจ้างคนอื่นเลี้ยง
ชีวิต. เขาอยู่ด้วยความทุกข์ยากอย่างนี้ ยังได้ทำความผิดกับคนอื่นอีก
เพราะความกลัวตาย จึงหนีเข้าป่า. เขาได้เห็นต้นแคฝอยและต้นโพธิ์
ในที่ที่ไปแล้วนั้น จึงได้ไหว้แล้ว กวาดเสร็จแล้วมองเห็นดอกไม้มีสีแดง
ที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง จึงเลือกเก็บเอาดอกกรรณิการ์มาทำการบูชาต้นโพธิ์
ทั้งหมดนั้น. เขาทำจิตให้เลื่อมใสในต้นโพธิ์นั้น ไหว้แล้วก็นั่งคู้บัลลังก์.
ในขณะนั้น พวกมนุษย์เหล่านั้นไล่ติดตามมาตามรอยเท้า ได้มาถึงในที่นั้น
แล้ว. เขาพอได้เห็นคนเหล่านั้นแล้ว ก็รำพึงถึงต้นโพธิ์พลางวิ่งหนี
ตกลงไปตายในเหวลึกแห่งภูเขาอันน่ากลัวแล้ว.
ด้วยปีติและโสมนัสเพราะระลึกถึงการบูชาต้นโพธิ์นั้นนั่นแล เขาจึง