เมนู

มัคคทายกเถราปทานที่ 7 (147)


ว่าด้วยผลแห่งการกระทำหนทาง


[149] พระสัมพุทธเจ้าผู้มีพระจักษุเสด็จขึ้นสู่ท่าน้ำแล้ว เสด็จ
ดำเนินไปสู่ป่า เราได้เห็นพระสัมพุทธเจ้า พระนามว่า
สิทธัตถะ มีพระลักษณะอันประเสริฐพระองค์นั้น.

จึงได้ถือเอาจอบและปุ้งกี๋มาปราบหนทางให้ราบเรียบ เรา
ได้ถวายบังคมพระศาสดาแล้ว ยังจิตให้เลื่อมใส.

ในกัปที่ 94 แต่กัปนี้ เราได้ทำกรรมใดในกาลนั้น ด้วย
กรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย.

ในกัปที่ 57 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอม
ประชาชนพระองค์หนึ่ง มีพระนามว่าสุปปพุทธะ เป็นผู้นำ
เป็นใหญ่กว่านระ.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระมัคคทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบมัคคทายกเถราปทาน

147. อรรถกถามัคคทายกเถราปทาน


อปทานของท่านพระมัคคทายกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า อุตฺตริตฺวาน
นทิกํ
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้ว ในพระชินวรพุทธเจ้า
พระองค์ก่อน ๆ ได้สั่งสมบุญเพื่อจะบรรลุพระนิพพานไว้เป็นเวลาหลาย
ภพ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า สิทธัตถะ ท่านได้
เกิดในตระกูลที่ชาวโลกยกย่องนับถือ เจริญวัยแล้ว ก็คงยังอยู่ในฆราวาส
วิสัย วันหนึ่ง เขาได้พบเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่ง
แล้ว จะเสด็จไปป่า มีความเลื่อมใสว่า เวลานี้ ควรที่เราจะปราบหนทาง
ให้ราบเสมอเพื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ดังนี้แล้ว จึงถือจอบและปุ้งกี๋มา
ทำหนทางที่พระผู้มีพระภาคเจ้าจะเสด็จผ่านมาให้ราบเรียบเสมอ เกลี่ย
ทรายลงแล้ว ก็ไปไหว้ที่พระบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้า ตั้งความ
ปรารถนาไว้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ด้วยผลแห่งการที่ได้ปรับหนทาง
ให้สวยงามนี้ ขอให้ข้าพระองค์จงได้เป็นผู้ควรแก่การบูชาในทุก ๆ ที่ที่ได้
ไปเกิดแล้วเถิด อนึ่ง ขอให้ข้าพระองค์จงได้บรรลุพระนิพพานด้วยเถิด.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงกระทำอนุโมทนาด้วยพระดำรัสว่า เธอปรารถนา
อย่างใด ขอจงสำเร็จอย่างนั้นเถิด แล้วก็เสด็จหลีกไป.
ด้วยบุญกรรมนั้น เขาจึงได้ท่องเที่ยวไปในเทวโลกและมนุษยโลก
ทุก ๆ ภพได้เป็นผู้มีคนบูชาแล้ว. ก็ในพุทธุปบาทกาลนี้ เขาได้เกิดใน
ตระกูลแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียง (ต่อมา) เลื่อมใสในพระศาสดา จึงได้บวช
เจริญวิปัสสนา ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัต ทราบถึงบุพกรรมของ
ตนได้โดยประจักษ์ชัด เกิดความโสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่