เมนู

สุทัสสนเถราปทานที่ 2 (132)


ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกการะเกด


[134] ไม้การะเกดกำลังมีดอก มีอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำกว้าง ข้าพระ-
องค์แสวงหาต้นการะเกดนั้นอยู่ ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้นำของโลก.

ในกาลนั้น ข้าพระองค์เห็นการะเกดมีดอกบาน จึงตัดที่ขั้ว
แล้วบูชาแด่พระพุทธเจ้าพระนามว่าสิขี ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของ
โลก.

ข้าแต่พระมหามุนีพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ พระองค์ทรงบรรลุ
อมตบทอันไม่เคลื่อนด้วยพระญาณใด ข้าพระองค์บูชาพระ-
ณาณนั้น ข้าพระองค์ทำการบูชาพระญาณแล้ว ได้เห็น
ดอกการะเกด ข้าพระองค์เป็นผู้ได้สัญญานั้น นี้เป็นผลแห่ง
การบูชาพระญาณ.

ในกัปที่ 31 แต่กัปนี้ ข้าพระองค์บูชาพระพุทธญาณด้วย
ไม้ใด ด้วยการบูชานั้น ข้าพระองค์ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็น
ผลแห่งการบูชาพระญาณ.

ในกัปที่ 31 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 12 ครั้ง
ทรงพระนามว่าพลุคคตะ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ
มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว ฉะนี้แล.

ทราบว่า ท่านพระสุทัสสนเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบสุทัสสนเถราปทา

132. อรรถกถาสุทัสสนเถราปทาน


อปทานของท่านพระสุทัสสนเถระ มีคำเริ่มต้นว่า วิตฺถตาย
นทีตีเร
ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้ว ในพระชินวรพุทธ-
เจ้าพระองค์ก่อน ๆ ได้สั่งสมบุญไว้ในทุก ๆ ภพนั้น ในกาลแห่งพระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า สิขี ท่านได้เกิดในเรือนอันมีตระกูล
เจริญวัยแล้ว ดำรงอยู่ในเพศฆราวาส (วันหนึ่ง) กำลังเดินหาต้นการะเกด
ที่มีดอกบาน ใกล้กับฝั่งแม่น้ำชื่อวิตถตะ (แม่น้ำกว้าง) เผอิญได้พบ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สิขี ผู้งดงามเปรียบปานกองไฟที่กำลัง
ลุกโพลง ประทับนั่งใกล้ฝั่งแห่งแม่น้ำนั้น มีใจเลื่อมใส เด็ดดอกการะเกด
พร้อมทั้งขั้วมาเเล้ว เมื่อจะบูชาจึงกราบทูลอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระองค์เป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า ทรงมีอานุภาพมากถึงอย่างนี้ มีด้วย
พระญาณใด, ข้าพระองค์ขอบูชาซึ่งพระญาณนั้น. ลำดับนั้น พระผู้มี-
พระภาคเจ้าได้ทรงกระทำอนุโมทนาแล้ว ด้วยบุญอันนั้น เขาได้บังเกิด
ในเทวโลกและมนุษยโลก ได้เสวยสมบัติทั้งสองจนครบถ้วนแล้ว ใน
พุทธุปบาทกาลนี้ ได้บังเกิดในเรือนอันมีตระกูลแห่งหนึ่ง เลื่อมใสใน
พระศาสดา บวชแล้วไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.