เมนู

เชื่อมความว่า ท่านผู้นี้จักเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า โคตมะ.
ในแสนกัปนับแต่กัปนี้ คำที่เหลือมีเนื้อความรู้ได้ง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาอุปเสนวังคันตปุตตเถราปทาน

รัฐปาลเถราปทานที่ 8 (18)


ว่าด้วยผลแห่งการถวายช้าง


[20] เราได้ถวายช้างเชือกประเสริฐ มีงางอนงามควรเป็นราช
พาหนะ พร้อมทั้งลูกช้างอันมีงางอนงามมีความแข็งแรง กั้น
ฉัตรขาว แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ เชษฐ-
บุรุษของโลกผู้คงที่ เราซื้อสถานที่นั้นทั้งหมดแล้ว ได้ให้สร้าง
อารามถวายแก่สงฆ์ ได้ให้สร้างปราสาทไว้ภายในวิหารนั้น
54,000 หลัง ได้ทำทานดังห้วงน้ำใหญ่แล้ว มอบถวายแค่
พระพุทธเจ้า.

พระสยัมภูมหาวีรเจ้า ผู้เป็นอัครบุคคล ทรงอนุโมทนา
ทรงยังชนทั้งหมดให้ร่าเริง ทรงแสดงอมตบท พระพุทธเจ้า
ผู้เป็นนายกพระนามว่าปทุมุตตระ ทรงทำผลบุญทำเราทำแล้ว
ให้แจ้งชัดแล้ว ประทับนั่ง ณ ท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ตรัส
พระคาถาเหล่านี้ ว่า ผู้นี้ได้สร้างปราสาท 54,000 หลัง เรา
จักแสดงวิบากของผู้นี้ ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว.

กูฏาคารหนึ่งหมื่นแปดพันหลังจักมีแก่ผู้นี้ และกูฏาคาร
เหล่านั้นสำเร็จด้วยทองล้วน เกิดในวิมานอันอุดม ผู้นี้จักเป็น

จอมเทวดาเสวยเทรัชสมบัติ 50 ครั้งและจักเป็นพระเจ้าจักร-
พรรดิ 58 ครั้ง.

ในกัปที่หนึ่งแสน พระศาสดาพระนามว่าโคดมโดยพระ-
โคตรซึ่งมีสภาพในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช จักเสด็จอุบัติ
ในโลก.

ผู้นี้อันกุศลมูลตักเตือนแล้ว จักเคลื่อนจากเทวโลก ไป
บังเกิดในสกุลที่เจริญมีโภคสมบัติมาก ภายหลัง เขาอันกุศล
มูลตักเตือนแล้ว จักบวช จักได้เป็นสาวกของพระศาสดา
จักมีนามว่ารัฐปาละ เขามีตนส่งไปแล้ว เพื่อความเพียรสูง
ระงับ ไม่มีอุปธิ จักกำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว ไม่มีอาสวะ
นิพพาน.

เราลุกขึ้นแล้ว ละโภคสมบัติออกเหมือนละก้อนเขฬะ
ฉะนั้น ความรักในโภคสมบัติไม่มีแก่เรา เรามีความเพียรอัน
นำธุระไป อันนำมาซึ่งธรรมเป็นแดนเกษมจากโยคะ เรา
ทรงไว้ซึ่งกายอันมีในที่สุด ในศาสนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว ฉะนี้แล.

ทราบว่า ท่านพระรัฐปาลเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบรัฐปาลเถราปทาน

18. อรรถกถารัฐปาลเถราปทาน


อปทาน ของท่านพระรัฐปาลเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปทุมุตฺตรสฺส
ภควโต

ดังนี้.
ท่านผู้มีอายุแม้นี้ ได้บำเพ็ญบุญญาธิการในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้น ๆ ก่อนแต่พระผู้มี-
พระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระเสด็จอุบัตินั่นเอง บังเกิดในตระกูล
คฤหบดีมหาศาล ในหังสวดีนคร เจริญวัยแล้ว โดยกาลล่วงไปแห่ง
บิดา ดำรงการครองเรือน ผู้จัดการในเรือนคลังแสดงทรัพย์ที่เป็นมาตาม
วงศ์ตระกูลหาประมาณมิได้ คิดว่าปิยชนมีบิดา ปู่ ตา ยาย ทวด เป็นต้น
ของเรา ไม่สามารถจะถือเอากองทรัพย์มีประมาณเท่านี้ให้เป็นสิทธิ
ของตนไปได้ แต่เราควรจะถือเอาไป ดังนี้แล้วได้ให้มหาทานแก่คน
กำพร้าและคนเดินทางเป็นต้น. ท่านเข้าไปหาดาบสรูปหนึ่งผู้ได้อภิญญา
ถูกดาบสชักชวนในความเป็นใหญ่ในเทวโลก จึงบำเพ็ญบุญอยู่ตลอดชีวิต
จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว บังเกิดในเทวโลก เสวยทิพยสมบัติดำรงอยู่ใน
เทวโลกนั้นตลอดอายุ จุติจากเทวโลกนั้นแล้ว บังเกิดเป็นบุตรคนเดียว
แห่งตระกูลผู้สามารถจะดำรงรัฐที่แตกต่างในมนุษย์โลก. โดยสมัยนั้น พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระเสด็จอุบัติในโลก ทรงประกาศ
ธรรมจักรอันประเสริฐ ยังสรรพสัตว์ให้ถึงภูมิอันเป็นแดนเกษมกล่าว
คือนิพพานมหานคร. ลำดับนั้น กุลบุตรนั้น ถึงความเป็นผู้รู้เดียงสา
โดยลำดับ วันหนึ่งไปสู่วิหารกับอุบาสกทั้งหลาย เห็นพระศาสดาทรง
แสดงธรรมอยู่ มีจิตเลื่อมใสนั่งอยู่ที่ท้ายบริษัท.