เมนู

ญาณสัญญิกเถราปทานที่ 2 (102)


ว่าด้วยผลแห่งการยังจิตให้เลื่อมใสถวายบังคม


[104] เราได้เห็นพระสัมพุทธเจ้า ผู้มีพระฉวีวรรณดังทอง ผู้
องอาจดุจม้าอาชาไนย ดังช้างมาตังคะตกมัน 3 ครั้ง ผู้แสวง
หาคุณยิงใหญ่ ทรงยังทิศทั้งปวงให้สว่างไสว เหมือนพญารัง
มีดอกบาน เป็นเชษฐบุรุษของโลก สูงกว่านระ เสด็จดำเนิน
ไปในถนน.

ยังจิตให้เลื่อมใสในพระญาณ ประนมอัญชลี มีจิตเลื่อม.
ใส มีใจโสมนัส ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า พระนาม
ว่าสิทธัตถะ.

ในกัปที่ 94 แต่กัปนี้ เราได้ทำกรรมใดในกาลนั้น ด้วย
กรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งสัญญาในพระ-
ญาณ.

ในกัปที่ 73 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 16 ครั้ง
มีพระนามว่านรุตตมะ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มี
พละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เรารู้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระญาณสัญญิกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบญาณสัญญิกเถราปทาน

102. อรรถกถาญาณสัญญิกเถราปทาน


อปทานของท่านพระญาณสัญญิกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า สุวณฺณวณฺณํ
สมพุทฺธํ
ดังนี้.
อะไรเป็นอุบัติเหตุ ? พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญกุศลสมภาใน
พระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพาน
ในภพนั้น ๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ บังเกิด
ในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง เจริญวัยแล้วเกิดศรัทธา มีความเอื้อเฟื้อ มีความ
อาลัยในการฟังพระสัทธรรม ส่งญาณไปตามกระแสพระธรรมเทศนาของ
พระผู้มีพระภาคเจ้า เลื่อมใสญาณของพระผู้มีพระภาคเจ้า เพราะความที่
ตนเป็นผู้หนักในเสียง กระทำการนอบน้อมด้วยองค์ 5 และองค์ 8 แล้ว
หลีกไป. ท่านจุติจากอัตภาพนั่นแล้ว เกิดในเทวโลก เสวยทิพยสมบัติ
ในฉกามาวจรเทวโลกนั้น จุติจากเทวโลกนั้น เกิดในมนุษยโลก เสวย
จักรพรรดิสมบัติเป็นต้น อันเป็นเลิศในมนุษย์โลกนั้น ในพุทธุปบาท-
กาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่งอันสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ เจริญ
วัยแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.
ครั้นภายหลัง ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะ
ประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า สุวณฺณวณฺณํ สมพุทฺธํ
ดังนี้. คำนั้นมีอรรถดังกล่าวแล้วนั้นแล. บทว่า นิสภาชานิยํ ยถา
ความว่า เป็นโคผู้องอาจประเสริฐกว่าโคตั้งแสนตัว. ชื่อว่า นิสภาชานิยะ
เพราะเป็นโคผู้ประเสริฐและสูงสุด. อธิบายว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อม