เมนู

อโปุปผิยเถราปทานที่ 4 (84)


ว่าด้วยผลการโปรยดอกไม้บูชา


[86] ภิกษุชื่ออภิภู เป็นอัครสาวกของพระพุทธเจ้าพระนามว่า
สิขี มีอานุภาพมาก บรรลุวิชชา 3 เข้ามาสู่ภูเขาหิมวันต์

ในกาลนั้น แม้เราก็เป็นฤาษีผู้ชำนาญในอัปปมัญญาและ
ฤทธิ์ อยู่ในอาศรม รมณียสถาน ใกล้ภูเขาหิมวันต์ เรา
ปรารถนาภูเขาอย่างยิ่ง เปรียบเหมือนนกในอากาศปรารถนา
อากาศฉะนั้น เราเก็บดอกไม้ที่เชิงเขาแล้ว มาสู่ภูเขา.

หยิบดอกไม้ 7 ดอกโปรยลงเบื้องบนพระเศียร เราอัน
พระวีรเจ้าแลดูแล้ว เดินบ่ายหน้าไปทางทิศปราจีน.

เรามุ่งไปสู่ที่อยู่ ถ้งอาศรมแล้วเก็บหาบเครื่องบริขาร แล้ว
เดินไปตามระหว่างภูเขา.

งูเหลือมเป็นสัตว์ร้ายกาจ มีกำลังมาก รัดเรา เราระลึก
ถึงบุพกรรม ได้ทำกาละ ณ ที่นั้น.

ในกัปที่ 31 แต่กัปนี้ เราโปรยดอกไม้ใด ด้วยกรรมนั้น
เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาด้วยดอกไม้.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระอโธปุปผิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบอโธปุปผิยเถราปทาน

84. อรรกถาอโธปุปผิยเถราปทาน


อปทานของท่านพระอโธปุปผิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า อภิภู นาม
โส ภิกฺขุ
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญกุศลสมภารไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
สั่งสมบุญทั่งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพเป็นอันมาก ในกาล
แห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่า สิขี บังเกิดในเรือนมีตระกูล เจริญวัยแล้ว
อยู่ครองเรือน ครั้นภายหลังท่านเห็นโทษในกามทั้งหลาย ละการอยู่
ครองเรือนนั้นแล้ว บวชเป็นฤาษี ได้อภิญญา 5 สมาบัติ 8 และถึง
ความเป็นผู้ชำนาญ อาศัยอยู่ในป่าหิมวันต์. พระอัครสาวกชื่อว่า อภิภู
ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า สิขี นั้น ยินดียิ่งในวิเวก ได้ไปสู่
ป่าหิมวันต์. ครั้งนั้น เราเห็นพระอัครสาวกเถระนั้นแล้ว ขึ้นสู่ภูเขาที่พระ-
เถระยืนอยู่ ถือเอาดอกไม้ 7 ดอกสมบูรณ์ด้วยสี มีกลิ่นหอม จากพื้น
ภายใต้แห่งภูเขามาบูชา. ครั้งนั้นพระเถระนั้น ได้กระทำอนุโมทนาแก่ท่าน.
ฝ่ายดาบสนั้นก็ได้ไปยังอาศรมของตน. ท่านถูกงูเหลือมตัวหนึ่งในที่นั้น
รัดเอา ภายหลังท่านมีฌานไม่เสื่อม ถูกอันตรายนั้นนั่นรบกวนกระทำ
กาละแล้ว ได้มีพรหมโลกเป็นที่ไปในเบื้องหน้า เสวยพรหมสมบัติ
และฉกามาวจรสมบัติ และยังมนุษยสมบัติทั้งหลายให้สิ้นไป ในพุทธุป-
บาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง เจริญวัยแล้ว ฟังธรรม
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า มีใจเลื่อมใสบวชแล้ว ไม่นานนักก็ได้เป็นพระ-
อรหันต์. ภายหลังท่านปรากฏโดยนามแห่งบุญกรรมที่ตนทำไว้ว่า อโธ-
ปุปผิยเถระ
ดังนี้.