เมนู

ฐิตัญชลิยเถราปทานที่ 9 (79)


ว่าด้วยผลแห่งการประนมกรอัญชลี


[81] เมื่อก่อนเราเป็นพรานเนื้ออยู่ในป่าชัฏ ได้พบพระสัม-
พุทธเจ้าผู้มีพระลักษณะอันประเสริฐ 32 ประการ ในป่านั้น
ณ ที่นั้น เราประนมกรอัญชลีแล้ว เดินบ่ายหน้าไปทางทิศ
ปราจีน ขณะเมื่อเรานั่งอยู่บนเครื่องลาดใบไม้ที่เรานำมาในที่
ไม่ไกล.

อสนีบาตตกลงบนกระหม่อมของเราในเวลานั้น ในเวลา
ใกล้ตายเราได้ประนมกรอัญชลีอีกครั้งหนึ่ง.

ในกัปที่ 92 แต่กัปนี้ เราได้ทำอัญชลีในกาลนั้น ด้วย
กรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการทำอัญชลี.

ในกัปที่ 54 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีพระนาม
ว่า มิคเกตุ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ประการ 7 มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระฐิตัญชลิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบฐิตัญชลิยเถราปทาน

79. อรรถกถาฐิติญชลิยเถราปทาน


อปทานของท่านพระฐิตัญชลิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า มิคลุทฺโธ
ปุเร อาสึ
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญกุศลสมภารไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพที่ตนเกิดนั้น ๆ ในกาล
แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ติสสะ บังเกิดในกำเนิดนายพราน
เพราะกรรมอย่างหนึ่งที่ตนกระทำไว้ในก่อนตัดรอน จึงสำเร็จการอยู่ป่า.
สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ติสสะ ได้เสด็จไปเพื่ออนุเคราะห์
แก่ท่าน. ท่านเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ผู้รุ่งเรืองด้วยพระลักษณะ 32
ประการ และด้วยพระรัศมีแห่งอนุพยัญชนะ 80 ประการด้านละวา เกิด
โสมนัสกระทำการนอบน้อม เสด็จไปประทับนั่งบนเครื่องลาดใบไม้.
ขณะนั้นฝนตกฟ้าร้องกระหึ่มผ่าลงมา. แต่นั้นในสมัยใกล้ตาย ทานระลึกถึง
พระพุทธเจ้า ได้กระทำอัญชลีอีก. ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านจึงห้ามอกุศล-
วิบาก เพราะเหตุที่ตนกระทำกุศลไว้ในเขตดี จึงบังเกิดในสวรรค์ เสวย
สมบัติในชั้นกามาวจรสวรรค์ และเสวยมนุษย์สมบัติในมนุษย์ทั้งหลาย
ครั้นภายหลังในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูล เจริญวัยแล้ว
เลื่อมใสในพระศาสดา ด้วยวาสนาที่คนกระทำไว้ในกาลก่อน บวชแล้ว
ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.
เบื้องหน้าแต่นั้น ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อ
จะประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า มิคลุทฺโธ ปุเร อาสึ
ดังนี้.