เมนู

เป็นพระคณาจารย์ เสด็จมา เข้าไป เข้าไปพร้อม ถึงพร้อมแล้ว ซึ่ง
สังกัสสนคร เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เสด็จจากภพดุสิตมาสู่ความเป็น
พระคณาจารย์ เพราะเหตุนั้น พระสารีบุตรเถระจึงกล่าวว่า
(ท่านพระสารีบุตรกล่าวดังนี้ว่า) พระศาสดาผู้มีพระ-
กระแสเสียงอันไพเราะ เสด็จจากภพดุสิต มาสู่ความ
เป็นพระคณาจารย์อย่างนี้ ก่อนแต่นี้ข้าพเจ้าไม่เคยเห็น
ทั้งไม่เคยได้ยินต่อใคร ๆเลย.

[888] พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้มีพระจักษุ ย่อมปรากฏเด่นชัด
แก่โลก พร้อมทั้งเทวโลก พระองค์ทรงกำจัดมืดทั้งปวง
เป็นบุคคลผู้เอก บรรลุแล้วถึงความยินดี.

[889] คำว่า แก่โลกพร้อมทั้งเทวโลก ความว่า แก่โลกพร้อม
ทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก แก่หมู่สัตว์พร้อมสมณพราหมณ์ เทวดา
และมนุษย์ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า แก่โลกพร้อมทั้งเทวโลก.

ว่าด้วยพระพุทธเจ้าปรากฏแก่เทวดาและมนุษย์


[890] คำว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้มีพระจักษุ ย่อมปรากฏ
เด่นชัด
ความว่า พวกเทวดาย่อมเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับแสดง
ธรรมอยู่ที่บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ณ ควงไม้ปาริฉัตตกะ ในภพดาวดึงส์
ฉันใด พวกมนุษย์ก็ย่อมเห็นฉันนั้น พวกมนุษย์ย่อมเห็นฉันใด พวก
เทวดาก็ย่อมเห็นฉันนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าย่อมปรากฏแก่พวกเทวดา
ฉันใด ก็ย่อมปรากฏแก่พวกมนุษย์ฉันนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าย่อมปรากฏ

แก่มนุษย์ฉันใด ก็ย่อมปรากฏแก่พวกเทวดาฉันนั้น แม้ด้วยเหตุอย่างนี้
ดังนี้ จึงชื่อว่า พระผู้มีพระภาคเจ้ามีพระจักษุย่อมปรากฏเด่นชัด อีกอย่าง
หนึ่ง ท่านสมณพราหมณ์บางพวกมิได้ฝึกตน ก็ปรากฏเพศแห่งบุคคล
ผู้ฝึกตน มิได้สงบ ก็ปรากฏโดยเพศแห่งบุคคลผู้สงบ มิได้ระงับ ก็ปรากฏ
โดยเพศแห่งบุคคลผู้ระงับ มิได้ดับ ก็ปรากฏโดยเพศแห่งบุคคลผู้ดับ
สมจริงดังภาษิตว่า1
สมณพราหมณ์ทั้งหลายผู้ไม่บริสุทธิ์ ณ ภายใน งาม
แต่ภายนอก เป็นผู้อันบริวารห้อมล้อมเที่ยวไปในโลก
เหมือนหม้อน้ำทำด้วยดินหุ้มทองคำ และเหมือนเหรียญ
มาสกโลหะชุบทองคำฉะนั้น.

พระผู้มีพระภาคเจ้าย่อมไม่ปรากฏแม้อย่างนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงฝึกพระองค์แล้ว ย่อมปรากฏโดยเพศแห่งพระพุทธเจ้าผู้ฝึกแล้ว ทรง
สงบแล้ว ย่อมปรากฏโดยเพศแห่งพระพุทธเจ้าผู้สงบแล้ว ทรงระงับแล้ว
ย่อมปรากฏโดยเพศแห่งพระพุทธเจ้าผู้ระงับแล้ว ทรงดับแล้ว ย่อมปรากฏ
โดยเพศแห่งพระพุทธเจ้าผู้ดับแล้ว โดยความจริงโดย เป็นจริง โดยถ่องแท้
โดยความเป็นจริง โดยไม่วิปริต โดยสภาพ ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลาย
ผู้เป็นพระพุทธเจ้า มีพระอิริยาบถมิได้กำเริบ ทรงสมบูรณ์ด้วยปณิธิ
(ความปรารถนา) แม้ด้วยเหตุอย่างนี้ดังนี้ จึงชื่อว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้มีพระจักษุย่อมปรากฏเด่นชัด.
อีกอย่างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีพระเกียรติอันบริสุทธิ์ ทรง
เพียบพร้อมด้วยพระเกียรติยศและความสรรเสริญ เป็นเช่นนี้ เช่นนั้น และ

1. สํ. ส. 15/ข้อ 358.

อย่างยิ่ง ในภพนาค ภพครุฑ ภพยักษ์ ภพอสูร ภพคนธรรพ์ ภพ-
มหาราช ภพอินทร์ ภพพรหม แม้ด้วยเหตุอย่างนี้ดังนี้ จึงชื่อว่า พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าทรงประกอบด้วยพละ 10 ย่อมปรากฏ ประจักษ์ รู้ได้ด้วย
เวสารัชชญาณ 4 ปฏิสัมภิทา 4 อภิญญา 6 พุทธธรรม 6 เดชธรรม
พลธรรมคุณธรรม วิริยะ ปัญญา สมจริงดังที่ตรัสไว้ว่า
สัตบุรุษทั้งหลายย่อมปรากฏในที่ไกล เหมือนภูเขา
หิมวันต์ฉะนั้น อสัตบุรุษทั้งหลายย่อมไม่ปรากฏในที่นั้น
เหมือนลูกศรที่ยิ่งไปในกลางคืนฉะนั้น.

แม้ด้วยเหตุอย่างนี้ดังนี้ จึงชื่อว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้มีพระจักษุ
ย่อมปรากฏเด่นชัด.

ว่าด้วยจักษุ 5 ประการ


คำว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้มีพระจักษุ ความว่า พระผู้มีพระภาค-
เจ้ามีพระจักษุด้วยจักษุ 5 ประการ คือมีพระจักษุแม้ด้วยมังสจักษุ มี
พระจักษุแม้ด้วยทิพยจักษุ มีพระจักษุแม้ด้วยปัญญาจักษุ มีพระจักษุแม้
ด้วยพุทธจักษุ มีพระจักษุแม้ด้วยสมันตจักษุ.
พระผู้มีพระภาคเจ้ามีพระจักษุแม้ด้วยมังสจักษุอย่างไร. สี 5 อย่าง
คือสีเขียว สีเหลือง สีแดง สีดำ และสีขาว ย่อมปรากฏมีอยู่ในมังสจักษุ
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ขนพระเนตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าตั้งอยู่ในที่ใด
ที่นั้นมีสีเขียว เขียวสนิท น่าชม น่าดู. เหมือนดอกผักตบ ต่อจากที่นั้น
มีสีเหลือง เหลืองนวล สีเหมือนทองคำ น่าชมน่าดู เหมือนดอกกรรณิการ์
ขอบเบ้าพระเนตรทั้งสองของพระผู้มีพระภาคเจ้า มีสีแดง แดงงาม น่าชม