เมนู

ว่าด้วยตัณหา


[420] ชื่อว่า ตัณหา ในคำว่า ไม่มีตัณหาในภพและในความ
ปราศจากภพ
คือรูปตัณหา สัททตัณหา คันธตัณหา รสตัณหา
โผฏฐัพพตัณหา ธรรมตัณหา. คำว่า ใด คือ พระอรหันตขีณาสพ.
คำว่า ในภพ คือ ในภวทิฏฐิ. คำว่า ในความปราศจากภพ คือ ใน
วิภวทิฏฐิ. คำว่า ในภพ คือ ในสัสสตทิฏฐิ. คำว่า ในความปราศจาก
ภพ
คือ ในอุจเฉททิฏฐิ. คำว่า ในภพ คือ ในความเกิดบ่อย ๆ ใน
ความไปบ่อย ๆ ในอุปบัติบ่อย ๆ ในปฏิสนธิบ่อย ๆ ในอันให้อัตภาพ
เกิดบ่อยๆ ตัณหาย่อมไม่มี ไม่ปรากฏ ไม่เข้าไปได้แก่ผู้ใด คือตัณหา
นั้นอันผู้ใดละ ตัดขาด สงบ ระงับ ทำไม่ให้ควรเกิดขึ้น เผาเสียแล้ว
ด้วยไฟคือญาณ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ผู้ใดไม่มีตัณหาในภพและในความ
ปราศจากภพ เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
ผู้ใดไม่มีความอาศัย รู้ธรรมแล้วไม่อาศัย ไม่มี
ตัณหาในภพ และในความปราศจากภพ.

[431] เรากล่าวบุคคลนั้นผู้ไม่เพ่งในกามทั้งหลายว่า เป็น
ผู้เข้าไปสงบ กิเลสเป็นเครื่องร้อยรัดทั้งหลาย ย่อม
ไม่มีแก่บุคคลนั้น บุคคลนั้นได้ข้ามตัณหา อันชื่อว่า
วิสัตติกาแล้ว.

[422] คำว่า เรากล่าวบุคคลนั้น...ว่า เป็นผู้เข้าไปสงบ ความ
ว่า เรากล่าว บอก พูด แสดง แถลง ซึ่งบุคคลนั้นว่าเป็นผู้สงบ