เมนู

นางวชิราภิกษุณีได้กล่าวคาถานี้กะมารผู้ลามก1ว่า
ดูก่อนมาร ทิฏฐิของท่านย่อมเชื่อสิ่งอะไรหนอว่าสัตว์
ร่างกายนี้เป็นกองแห่งสังขารล้วน บัณฑิตย่อมไม่ได้ที่จะ
เรียกว่าเป็นสัตว์ในกองสังขารล้วนนี้ เสียงว่ารถย่อมมี
เพราะคุมกันเข้าแห่งส่วนประกอบ ฉันใด เมื่อขันธ์
ทั้งหลายมีอยู่ ความสมมติว่าสัตว์ก็มี ฉันนั้น ก็ทุกข์
อย่างเดียวย่อมเกิด ทุกข์ย่อมตั้งอยู่ และย่อมแปรไป
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ.

แม้ด้วยเหตุอย่างนี้ จึงชื่อว่า ความกังวลอะไร ๆ...ย่อมไม่มีแก่ผู้ใด.
และสมจริงตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุย่อมค้นหารูปอย่างนั้นแหละ ตลอดถึงคติของรูปที่มีอยู่ ภิกษุย่อมค้น
หาเวทนา...สัญญา... สังขาร... วิญญาณ ตลอดถึงคติของวิญญาณที่มีอยู่
เมื่อภิกษุนั้นค้นหารูปตลอดถึงคติของรูปที่มีอยู่ เมื่อค้นหาเวทนา . . .
สัญญา... สังขาร... วิญญาณ ตลอดถึงคติของวิญญาณที่มีอยู่ แม้ความ
ถือว่าเราก็ดี ว่าของเราก็ดี ว่าเราย่อมมีก็ดี ความถือแม้นั้นก็มิได้มีแก่ภิกษุ
นั้นๆ แม้ด้วยเหตุอย่างนี้ จึงชื่อว่า ความกังวลอะไรๆ... ย่อมไม่มีแก่ผู้ใด.

ว่าด้วยโลกสูญ


ท่านพระอานนท์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ พระองค์ตรัสว่า โลกสูญ โลกสูญ ดังนี้ ด้วยเหตุเท่าไรหนอแล
พระองค์จึงตรัสว่า โลกสูญ โลกสูญ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า

1. ส. ส. 15/ข้อ 555.