เมนู

ภิกษุไม่ตั้งอยู่ในการซื้อการขายอย่างไร ภิกษุไม่ทำความลวง
หรือไม่ปรารถนาความเจริญ ย่อมแลกเปลี่ยนบาตรก็ดี จีวรก็ดี บริขาร
อื่นอะไร ๆ ก็ดี กับสหธรรมิก 5 จำพวก ภิกษุไม่ตั้งอยู่ในการซื้อขาย
อย่างนี้. คำว่า ภิกษุไม่พึงตั้งอยู่ในการซื้อ การขาย ความว่า ภิกษุไม่
พึงตั้งอยู่ ไม่พึงดำรงอยู่ในการซื้อ การขา พึงละ บรรเทา ทำให้สิ้น
ไป ให้ถึงความไม่มี ซึ่งการซื้อการขาย พึงเป็นผู้งด เว้น เว้นเฉพาะ
ออกไป สลัด พ้นขาด ไม่เกี่ยวข้อง กับการซื้อการขาย พึงเป็นผู้มีจิต
ปราศจากแดนกิเลสอยู่ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ไม่พึงตั้งอยู่ในการซื้อ
การขาย.

ว่าด้วยกิเลส


[763] คำว่า ภิกษุไม่พึงทำกิเลส เป็นเครื่องค่อนขอดในที่
ไหน ๆ
ความว่า กิเลสเป็นเครื่องทำความค่อนขอดเป็นไฉน มีสมณ-
พราหมณ์บางพวกผู้มีฤทธิ์ มีทิพยจักษุ รู้จักจิตผู้อื่น สมณพราหมณ์
พวกนั้น คนเห็นได้แต่ไกลบ้าง อยู่ใกล้ไม่ปรากฏบ้าง รู้จักจิตด้วยจิตบ้าง
พวกเทวดาผู้มีฤทธิ์ มีทิพยจักษุ รู้จักจิตผู้อื่น เทวดาพวกนั้น คนเห็น
ได้แก่ไกลบ้าง อยู่ใกล้ไม่ปรากฏบ้าง รู้จักจิตด้วยจิตบ้าง สมณพราหมณ์
และเทวดาเหล่านั้น ย่อมค่อนขอดด้วยกิเลสหยาบบ้าง ด้วยกิเลสปานกลาง
บ้าง ด้วยกิเลสละเอียดบ้าง. กิเลสหยาบเป็นไฉน กายทุจริต วจีทุจริต
มโนทุจริต เหล่านี้เรียกว่า กิเลสหยาบ. กิเลสปานกลางเป็นไฉน กามวิตก
พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก เหล่านั้นเรียกว่า กิเลสปานกลาง. กิเลสละเอียด
เป็นไฉน ความวิตกถึงญาติ ความวิตกถึงชนบท ความวิตกถึงอมรเทพ

ความวิตกอันปฏิสังยุตด้วยความเป็นผู้เอ็นดูผู้อื่น ความวิตกอันปฏิสังยุต
ด้วยลาภสักการะ และความสรรเสริญ ความวิตกอันปฏิสังยุตด้วยความ
ไม่ถูกดูหมิ่น วิตกเหล่านี้เรียกว่า กิเลสละเอียด.
สมณพราหมณ์และเทวดาเหล่านั้น พึงค่อนขอดด้วยกิเลสหยาบบ้าง
ด้วยกิเลสปานกลางบ้าง ด้วยกิเลสละเอียดบ้าง ภิกษุไม่พึงทำกิเลสเป็น
เครื่องค่อนขอด คือไม่ควรทำกิเลสทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความค่อน-
ขอด ไม่ควรยังกิเลสเหล่านั้นให้เกิด ให้เกิดพร้อม ให้บังเกิด ให้บังเกิด
เฉพาะ พึงละ บรรเทา ทำให้สิ้นไป ให้ถึงความไม่มี ซึ่งกิเลสทั้งหลาย
อันเป็นเครื่องทำความค่อนขอด พึงเป็นผู้งด เว้น เว้นเฉพาะ ออกไป
สลัด พ้นขาด ไม่เกี่ยวข้องด้วยกิเลสอันเป็นเครื่องทำความค่อนขอด พึง
เป็นผู้มีจิตปราศจากแดนกิเลสอยู่. คำว่า ในที่ไหน ๆ คือในที่ไหนๆ
ในที่ทุกๆแห่ง ภายในบ้าง ภายนอกบ้าง ทั้งภายในและภายนอกบ้าง
เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ภิกษุไม่พึงทำกิเลสเป็นเครื่องค่อนขอดในที่ไหน.
[764] พึงทราบวินิจฉัยคำว่า ไม่พึงเกี่ยวข้องในบ้าน ดังต่อ
ไปนี้ ภิกษุย่อมเกี่ยวข้องในบ้านอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมอยู่
เกี่ยวข้อง ร่วมยินดี ร่วมเศร้าโศก กับพวกคฤหัสถ์ในบ้าน เมื่อพวก
คฤหัสถ์มีสุขก็สุขด้วย มีทุกข์ก็ทุกข์ด้วย มีธุรกิจที่ต้องทำเกิดขึ้น ก็ถึง
ความช่วยเหลือด้วยตน ภิกษุย่อมเกี่ยวข้องในบ้านแม้อย่างนี้ อีกอย่าง
หนึ่ง เวลาเช้า ภิกษุนุ่งสบงแล้ว ถือบาตรและจีวรเข้าไปยังบ้านหรือ
นิคมเพื่อบิณฑบาต ไม่รักษากาย ไม่รักษาวาจา ไม่รักษาจิต ไม่
ตั้งสติมั่น ไม่สำรวมอินทรีย์ เธอย่อมเกี่ยวข้องในที่นั้นๆ ย่อมรับในที่

นั้น ๆ ย่อมติดอยู่ในที่นั้น ๆ ถึงความฉิบหายในที่นั้นๆ ภิกษุย่อมเกี่ยว-
ข้องในบ้านแม้อย่างนี้ ภิกษุย่อมไม่เกี่ยวข้องในบ้านอย่างไร ภิกษุใน
ธรรมวินัยนี้ ย่อมไม่อยู่เกี่ยวข้อง ไม่ร่วมยินดี ไม่ร่วมเศร้าโศก กับพวก
คฤหัสถ์ในบ้าน เมื่อพวกคฤหัสถ์มีสุขก็มีสุขด้วย มีทุกข์ก็ไม่ทุกข์ด้วย
เมื่อมีธุรกิจที่ต้องทำเกิดขึ้น ก็ไม่ถึงความช่วยเหลือด้วยตน ภิกษุย่อมไม่
เกี่ยวข้องในบ้านแม้อย่างนี้ อีกอย่างหนึ่ง เวลาเช้าภิกษุนุ่งสบงแล้ว ถือ
บาตรและจีวรเข้าไปยังบ้านหรือนิคมเพื่อบิณฑบาต รักษากาย รักษาวาจา
รักษาจิต ตั้งสติมั่น สำรวมอินทรีย์ ย่อมไม่เกี่ยวข้องในที่นั้นๆ ย่อม
ไม่รับในที่นั้นๆ ย่อมไม่ติดอยู่ในที่นั้นๆ ไม่ถึงความฉิบหายในที่นั้น ๆ
ภิกษุย่อมไม่เกี่ยวข้องในบ้านแม้อย่างนี้.
คำว่า ไม่เกี่ยวข้องในบ้าน ความว่า ภิกษุไม่พึงเกี่ยวข้อง ไม่รับ
ไม่ติด ไม่พัวพันในบ้าน ไม่พึงเป็นผู้กำหนัดยินดีหลงใหลติดใจในบ้าน
พึงเป็นผู้หายกำหนัด ปราศจากกำหนัด สละกำหนัดเสียแล้ว ฯลฯ พึง
เป็นผู้มีตนดุจพรหมอยู่ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ไม่พึงเกี่ยวข้องในบ้าน.

ว่าด้วยการพูดเลียบเคียง


[765] พึงทราบวินิจฉัยในคำว่า ไม่พึงพูดเลียบเคียงกะชน
เพราะความอยากได้ลาภ
ดังต่อไปนี้
การพูดเลียบเคียงเป็นไฉน การพูดหว่านล้อม การพูดเลียบเคียง
การพูดเลียบเคียงด้วยดี การพูดยกย่อง การพูดยกย่องด้วยดี การพูดผูก
พัน การพูดผูกพันด้วยดี การพูดอวดอ้าง การพูดอวดอ้างด้วยดี การ
พูดฝากรัก ความเป็นผู้พูดมุ่งให้เขารักตน ความเป็นผู้พูดเหลวไหลดังว่า