เมนู

เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า และชนเหล่าใดแล ย่อมเที่ยวไปในโลกเพราะ
ความโลภ.

ว่าด้วยความหวัง


[460] คำว่า อนึ่ง ความหวังและความสำเร็จหวัง ก็มีฉันทะ
นี้เป็นนิทาน
ความว่า ตัณหา เรียกว่าความหวัง ได้แก่ราคะ ฯลฯ
อภิชฌา โลภะ อกุศลมูล. คำว่า ความสำเร็จหวัง ความว่า บุคคลบาง
คนในโลกนี้ เมื่อแสวงหารูป ได้รูป เป็นผู้มีความสำเร็จหวังในรูป เมื่อ
แสวงหาเสียง ... กลิ่น ... รส ... เมื่อแสวงหาโผฏฐัพพะ ได้โผฏฐัพพะ
เป็นผู้มีความสำเร็จหวังในโผฏฐัพพะ เมื่อแสวงหาสกุล...คณะ... อาวาส...
ลาภ ... ยศ ... สรรเสริญ ... สุข ... จีวร... บิณฑบาต... เสนาสนะ ...
คิลานปัจจัยเภสัชบริขาร.. พระสูตร... พระวินัย ... พระอภิธรรม...
อารัญญิกังคธุดงค์...ปิณฑปาติกังคธุดงค์...สปทานจาริกังคธุดงค์... ขลุ-
ปัจฉาภัตติกังคธุดงค์... เนสัชชิกังคธุดงค์... ยถาสันถติกังคธุดงค์... ปฐม-
ฌาน... ทุติยฌาน... ตติยฌาน... จตุตถฌาน... อากาสานัญจายตน-
สมาบัติ ... วิญญาณัญจายตนสมาบัติ... อากิญจัญญายตนสมาบัติ... เมื่อ
แสวงหาเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ ได้เนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ
เป็นผู้มีความสำเร็จหวังในเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ.
สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
บุคคลย่อมไถนาด้วยความหวัง หว่านพืชด้วยความ
หวัง พวกพ่อค้าหาทรัพย์ ไปสู่สมุทรด้วยความหวัง เรา
ย่อมตั้งอยู่ด้วยความหวังใด ความหวังนั้นของเราย่อม
สำเร็จ
ดังนี้.

ความสำเร็จแห่งความหวัง เรียกว่าความสำเร็จหวัง. คำว่า ความ
หวังและความสำเร็จหวัง ก็มีฉันทะนี้เป็นนิทาน
ความว่า ความหวัง
และความสำเร็จหวัง ก็มีฉันทะนี้เป็นนิทาน คือมีฉันทะเป็นสมุทัย มี
ฉันทะเป็นชาติ มีฉันทะเป็นแดนเกิด เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ความหวัง
และความสำเร็จหวัง ก็มีฉันทะนี้เป็นนิทาน.
[461] คำว่า ที่มีแก่นรชนเพื่อโลกหน้า ความว่า ความหวัง
และความสำเร็จหวังที่เป็นเบื้องหน้า เป็นเกาะ เป็นที่ป้องกัน เป็นที่
แอบแฝง เป็นที่ระลึกของนรชน คือนรชนเป็นผู้มีความสำเร็จหวังเป็น
เบื้องหน้า เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ที่มีแก่นรชนเพื่อภพหน้า เพราะ
เหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
สิ่งที่รักทั้งหลายในโลก มีฉันทะเป็นนิทาน และ
นรชนเหล่าใดแล ย่อมเที่ยวไปในโลกเพราะความโลภ
ความโลภของนรชนเหล่านั้น มีฉันทะนี้เป็นนิทาน อนึ่ง
ความหวังและความสำเร็จหวังที่มีแก่นรชนเพื่อโลกหน้า
นั้น ก็มีฉันทะนี้เป็นนิทาน.

[462] (พระพุทธนิมิตตรัสถามว่า) ฉันทะในโลกมีอะไรเป็น
นิทาน และความตัดสินใจมีมาแต่อะไร อนึ่ง ความ
โกรธ ความเป็นผู้พูดเท็จ และความสงสัย มีมาแต่
อะไร และธรรมเหล่าใดแล อันพระสมณะตรัสไว้แล้ว
ธรรมเหล่านั้นมีมาแต่อะไร.

ว่าด้วยฉันทะ...มีอะไรเป็นเหตุ


[463] คำว่า ฉันทะในโลกมีอะไรเป็นนิทาน ความว่า พระ-
พุทธนิมิตตรัสถาม สอบถาม ขอให้ตรัสบอก อัญเชิญให้ทรงแสดง ขอ
ให้ประสาทซึ่งมูล ฯลฯ สมุทัยแห่งฉันทะว่า ฉันทะมีอะไรเป็นนิทาน คือ
เกิด เกิดพร้อม บังเกิด บังเกิดเฉพาะ ปรากฏมาแต่อะไร คือมีอะไร
เป็นนิทาน มีอะไรเป็นสมุทัย มีอะไรเป็นชาติ มีอะไรเป็นแดนเกิด
เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ฉันทะในโลกมีอะไรเป็นนิทาน.
[464] คำว่า และความตัดสินใจมีมาแต่อะไร ความว่า พระ-
พุทธนิมิตตรัสถาม สอบถาม ขอให้ตรัสบอก อัญเชิญให้ทรงแสดง ขอ
ให้ประสาทซึ่งมูล ฯลฯ สมุทัยแห่งความตัดสินใจว่า ความตัดสินใจมีมา
แต่อะไร คือเกิด เกิดพร้อม บังเกิดเฉพาะ ปรากฏมาแต่อะไร คือ
มีอะไรเป็นนิทาน มีอะไรเป็นสมุทัย มีอะไรเป็นชาติ มีอะไรเป็นแดน
เกิด เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า และความตัดสินใจมีมาแต่อะไร.
[465] ชื่อว่า ความโกรธ ในคำว่า อนึ่ง ความโกรธ ความ
เป็นผู้พูดเท็จ และความสงสัย
คือความความปองร้าย ความมุ่งร้าย ความขัด-
เคือง ความขุ่นเคือง ความเคืองทั่ว ความเคืองเสมอ ความชัง ความ
ชั่งทั่ว ความชังเสมอ ความพยาบาทแห่งจิต ความประทุษร้ายในใจ
ความโกรธ กิริยาที่โกรธ ความเป็นผู้โกรธ ความชัง กิริยาที่ชัง ความ
เป็นผู้ชัง ความพยาบาท กิริยาที่พยาบาท ความเป็นผู้พยาบาท ความ
พิโรธ ความพิโรธตอบ ความเป็นผู้ดุร้าย ความเพาะวาจาชั่ว ความ
เป็นผู้ไม่แช่มชื่นแห่งจิต ความกล่าวเท็จ เรียกว่าความเป็นผู้พูดเท็จ