เมนู

ว่าด้วยถูกข่มด้วยวาทะแล้วเสียใจ



[284] คำว่า กล่าววาทะของชนนั้นว่าเลว มีความว่า ชนผู้
พิจารณาปัญหาย่อมกล่าว บอก พูด แสดง แถลง ซึ่งวาทะของชนนั้น
ว่า เลว เลวทราม เสื่อมเสีย เสียหาย ไม่บริบูรณ์ อย่างนี้ เพราะฉะนั้น
จึงชื่อว่า กล่าววาทะของชนนั้นว่าเลว.
[285] คำว่า ชนผู้พิจารณาปัญหา......คัดค้านให้ตกไป มี
ความว่า ชนผู้พิจารณาปัญหา ผู้เป็นสมาชิกของที่ประชุม ผู้มีความกรุณา
ย่อมคัดค้านให้ตกไป คือย่อมคัดค้านโดยอรรถะว่า คำที่ท่านกล่าว ปราศจาก
อรรถะ, ย่อมคัดค้านโดยพยัญชนะว่า คำที่ท่านกล่าว ปราศจากพยัญชนะ,
ย่อมคัดค้านโดยอรรถะและพยัญชนะว่า คำที่ท่านกล่าว ปราศจากทั้งอรรถะ
ทั้งพยัญชนะ, ย่อมคัดค้านว่า เนื้อความท่านชักมาไม่ดี, พยัญชนะท่านยก
ขึ้นไม่ดี, อรรถะและพยัญชนะท่านชักมาไม่ดี, ยกขึ้นไม่ดี, ความข่มผู้อื่นท่าน
ไม่กระทำ, ความเชิดชูลัทธิท่านทำไม่ดี, วาทะอันวิเศษท่านไม่กระทำ,
วาทะอันวิเศษเฉพาะท่านทำไม่ดี, ความผูกมัดผู้อื่น ท่านไม่การทำ, ความ
ปลดเปลื้อง ท่านทำไม่ดี ความตัดรอนวาทะผู้อื่น ท่านไม่กระทำ, ความ
ขนาบวาทะผู้อื่น ท่านทำไม่ดี, ท่านพูดชั่ว กล่าวชั่ว เจรจาชั่ว เปล่ง
วาจาชั่ว ภาษิตชั่ว เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ชนผู้พิจารณาปัญหา....คัด
ค้านให้ตกไป
.
[286] คำว่า ชนนั้นมีวาทะเสื่อมไปแล้ว ย่อมรำพัน เศร้า
โศก
มีความว่าคำว่า ย่อมรำพัน ได้แก่ เป็นผู้มีการพูดเพ้อ บ่นเพ้อ
พร่ำเพ้อ อาการพร่ำเพ้อ ความเป็นแห่งอาการพร่ำเพ้อ เห็นปานนี้ว่า

เหตุการณ์อื่นเรานึก คิด พิจารณา ใคร่ครวญแล้ว เขามีพวกมาก มี
บริษัทมาก มีบริวารมาก ก็บริษัทนี้เป็นพวกแต่ไม่พร้อมเพรียงกัน การ
เจรจาปราศรัยจงมีเพื่อความพร้อมเพรียงกัน เราจักทำลายเขาอีก เพราะ
ฉะนั้นจึงชื่อว่า ย่อมรำพัน. คำว่า ย่อมเศร้าโศก ได้แก่ ย่อมเศร้าโศก
ลำบากใจ รำพัน ทุบอก คร่ำครวญ ถึงความหลงใหลว่า เขามีชัย เรา
ปราชัย เขามีลาภ เราเสื่อมลาภ เขามียศ เราเสื่อมยศ เขาได้ความสรร-
เสริญ เราได้ความนินทา เขามีสุข เรามีทุกข์ เขาได้รับสักการะ เคารพ
นับถือ บูชา ยำเกรง ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัย
เภสัชบริขาร เราไม่ได้รับสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ยำเกรง ไม่ได้
จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร เพราะฉะนั้น
จึงชื่อว่า ย่อมรำพัน เศร้าโศก. คำว่า มีวาทะเสื่อมไปแล้ว ได้แก่
มีวาทะเสื่อมไปแล้ว มีวาทะเลวทราม มีวาทะเสื่อมรอบ มีวาทะอันเขาให้
เสื่อมรอบ มีวาทะไม่บริบูรณ์แล้ว เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ชนนั้นมีวาทะ
เสื่อมไปแล้ว ย่อมรำพัน เศร้าโศก
.
[287] คำว่า ทอดถอนใจอยู่ว่า เขาล่วงเลยเรา มีความว่า
ทอดถอน อยู่ว่า เขา ล่วง ล้ำ เกิน เลย ล่วงเลย ซึ่งวาทะเราด้วยวาทะ
เขา เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เขาล่วงเลยเรา แม้ด้วยประการอย่างนี้ อีก
อย่างหนึ่ง ทอดถอนใจอยู่ว่า เขากดขี่ ครอบงำ ย่ำยีวาทะเราด้วยวาทะ
เขาแล้ว ย่อมประพฤติอยู่ เปลี่ยนอิริยาบถ หมุนไป รักษาเป็นไป ยิ่ง
อัตภาพให้เป็นไป เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า เขาล่วงเลยเรา แม้ด้วยประการ
อย่างนี้ การพูดเพ้อ การบ่นเพ้อ การพร่ำเพ้อ อาการพร่ำเพ้อ ความ

เป็นแห่งอาการพร่ำเพ้อ เรียกว่า ทอดถอนใจอยู่ เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า
ทอดถอนใจอยู่ว่า เขาล่วงเลยเราเพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงตรัสว่า :-
ชนผู้พิจารณาปัญหา กล่าววาทะของตนนั้นว่าเลว
คัดค้านให้ตกไป ชนนั้นมีวาทะเสื่อมไปแล้ว ย่อมรำพัน
เศร้าโศกทอดถอนใจอยู่ว่า เขาล่วงเลยเรา.

[287] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า :-
ความวิวาทกันเหล่านี้ เกิดแล้วในสมณะทั้งหลาย
ความยินดีและความยินร้าย ย่อมมีในเพราะความวิวาท
เหล่านั้น บุคคลเห็นโทษแม้นี้แล้ว พึงงดเว้นการคัดค้าน
กัน เพราะประโยชน์อื่นจากการได้ความสรรเสริญ ย่อม
ไม่มี.


ว่าด้วยโทษของการวิวาท



[289] คำว่า ความวิวาทกันเหล่านี้ เกิดแล้วในสมณะ
ทั้งหลาย
มีความว่า คำว่า สมณะ ได้แก่ ชนบางเหล่าผู้เป็นปริพาชก
ภายนอกพระศาสนานี้ ความทะเลาะกันเพราะทิฏฐิ ความวิวาทกันเพราะ
ทิฏฐิ ความหมายมั่นกันเพราะทิฏฐิ ความแก่งแย่งกันเพราะทิฏฐิ ความมุ่ง
ร้ายกันเพราะทิฏฐิ เกิดแล้ว คือ เกิดพร้อม บังเกิด บังเกิดเฉพาะ
ปรากฏแล้ว ในสมณะทั้งหลาย เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ความวิวาทกัน
เหล่านี้เกิดแล้วในสมณะทั้งหลาย
.