จึงชื่อว่า เห็นดังนี้แล้ว. คำว่า ไม่ควรอยู่ครองเรือน ความว่า กุลบุตร
ตัดกังวลในฆราวาสทั้งหมด ตัดกังวลในบุตรและภรรยา ตัดกังวลในญาติ
ตัดกังวลในมิตรและอมาตย์ ตัดกังวลในความสั่งสมทั้งหมด ปลงผมและ
หนวด ครองผ้ากาสายะ ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต เข้าถึงความ
เป็นผู้ไม่มีห่วงใย พึงเป็นผู้เดียวเที่ยวไป คือ อยู่ เป็นไป หมุนไป
รักษา ดำเนินไป ให้อัตภาพดำเนินไป เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า กุลบุตร
เห็นดังนี้ แล้วไม่ควรอยู่ครองเรือน. เพราะเหตุนั้นพระผู้มีพระภาค
เจ้าจึงตรัสว่า :-
ชนทั้งหลายย่อมเศร้าโศกในเพราะวัตถุที่ถือว่าของ
เรา ความยึดถือทั้งหลายเป็นของเที่ยง มิได้มีเลย การยึด
ถือนี้มีความพลัดพรากเป็นที่สุดทีเดียว กุลบุตรเห็นดังนี้
แล้ว ไม่ควรอยู่ครองเรือน.
[191] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า :-
บุรุษย่อมสำคัญเบญจขันธ์ใดว่า นี้ของเรา เบญจ-
ขันธ์นั้นอันบุรุษนั้นย่อมละไปแม้เพราะความตาย พุทธ-
มามกะผู้เป็นบัณฑิตรู้เห็นโทษแม้นั้นแล้ว ไม่ควรน้อมไป
เพื่อความยึดถือว่าของเรา.
ว่าด้วยการยึดถือเบญจขันธ์
[192] คำว่า เบญจขันธ์นั้นอันบุรุษนั้น ย่อมละไปแม้เพราะ
ความตาย มีความว่า คำว่า ความตาย ได้แก่ ความจุติ ความเคลื่อน
จากหมู่สัตว์นั้น ๆ แห่งเหล่าสัตว์นั้น ๆ ควรทำลาย ความหายไป มัจจุ-