เมนู

5. สัมภวชาดก



ว่าด้วยผู้รุ่งโรจน์ได้เพราะปัญญา



[2352] ดูก่อนท่านอาจารย์สุจีรตะ เราทั้งหลาย
ได้ราชสมบัติและความเป็นใหญ่แล้ว ยังปรารถนาอยาก
ได้ความเป็นใหญ่ยิ่งขึ้น เพื่อความปรารถนาภิเษกครอบ
ครองพื้นปฐพีนี้.
โดยธรรม มิใช่โดยอธรรม เราหาชอบใจอธรรม
ไม่ ดูก่อนท่านอาจารย์สุจีรตะ การประพฤติธรรม
เป็นกิจของพระราชาโดยแท้.
ดูก่อนพราหมณ์ เราทั้งหลายจะไม่ถูกนินทา
ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ด้วยเหตุใด และจะได้รับ
เกียรติยศในเทวดาและมนุษย์ด้วยเหตุใด ขอท่านจง
บอกเหตุนั้น ๆ แก่เรา.
ดูก่อนพราหมณ์ เราปรารถนาจะกระทำตาม
อรรถและธรรม เราถามท่านแล้ว ขอจงบอกอรรถ
และธรรมนั้นด้วยเถิด.
[2353] ขอเดชะพระขัตติยราช พระองค์ทรง
ปรารถนา จะปฏิบัติตามอรรลและธรรมใด นอกจาก
วิธุรพราหมณ์แล้ว ไม่มีใครอื่นที่จะสมควรชี้แจงอรรถ
และธรรมนั้นได้.

[2354] ดูก่อนท่านอาจารย์สุจีรตะ มาเถิดท่าน
เราจะส่งท่านไปยังสำนักของวิธุรพราหมณ์ ท่านจงนำ
เอาทองคำแท่งนี้ไปมอบให้ เพื่อรับคำอธิบาย ซึ่ง
อรรถและธรรม.
[2355] มหาพราหมณ์ผู้ภารทวาชโคตรนั้น ได้
ไปถึงสำนักของวิธุรพราหมณ์แล้ว เห็นท่านพราหมณ์
กำลังบริโภคอาหารอยู่ ในเรือนของตน.
[2356] พระเจ้าโกรัพยราช ผู้เรืองพระยศ
ทรงส่งเราให้เป็นทูตมา พระเจ้าโกรัพยะผู้ยุธิฏฐิลโคตร
ดำตรัสถามถึงอรรถและธรรม ได้ตรัสแล้วดังนี้ วิธุระ
สหายรัก ท่านถูกถามถึงอรรถและธรรมนั้นแล้วกรุณา
บอกเราด้วย.
[2357] ดูก่อนพราหมณ์ เราคิดว่า จักกั้น
แม่น้ำคงคา แต่ไม่อาจจะกั้นแม่น้ำใหญ่นั้นได้ เพราะ
เหตุนั้น โอกาสนั้นจักมีได้อย่างไร เมื่อท่านถามถึง
อรรถและธรรม เราจึงไม่อาจจักบอกได้.
[2358] มหาพราหมณ์ผู้ภารทวาชโคตรนั้น ได้
ไปถึงสำนักของภัทรการมาณพ ได้เห็นเธอกำลังนั่งอยู่
ในเรือนของตน.
[2359] เราเป็นราชทูตของพระเจ้าโกรัพยราช
ผู้ยงยศทรงส่งมา พระองค์ผู้ยุธิฏฐิลโคตร ตรัสถาม
ถึงอรรถและธรรม ได้ตรัสแล้วอย่างนี้ ดูก่อนภัทร-
การมาณพ เธอจงบอกอรรถและธรรมนั้นแก่เราด้วย.

[2360] ข้าพเจ้าเป็นเหมือนคนทิ้งหาบเนื้อแล้ว
วิ่งตามเหี้ยไป ถึงจะถูกถามอรรถและธรรมก็ไม่อาจจะ
บอกแก่ท่านได้ ข้าแต่ท่านพราหมณ์สุจีรตะ น้องชาย
ของข้าพเจ้าชื่อว่า สัญชย มีอยู่ เชิญท่านไปถามอรรถ
และธรรมกะเธอดูเถิด.
[2361] มหาพราหมณ์ผู้ภารทวาชโคตรนั้น ได้
ไปถึงสำนักสัญชยกุมารแล้ว ได้เห็นสัญชยกุมารนั่ง
อยู่ในนิเวศน์ของตน จึงพูดว่า
[2362] เราเป็นราชทูตของพระเจ้าโกรัพัยราช
ผู้ยงยศทรงส่งมา พระองค์ผู้ยุธิฏฐิลโคตร ดำรัสถาม
อรรถและธรรม ได้ตรัสว่าดังนี้ ดูก่อนสัญชยกุมารเจ้า
ถูกถามแล้ว จงบอกอรรถและธรรมนั้นเถิด.
[2363] ข้าแต่ท่านสุจีรตพราหมณ์ มัจจุราช
ย่อมกลืนกินข้าพเจ้า ทั้งเช้าและเย็น ถึงถูกท่านถาม
ก็ไม่สามารถจะบอก อรรถและธรรมแก่ท่านได้.
ท่านพราหมณ์สุจีรตะ น้องชายของข้าพเจ้ามีอยู่
ชื่อว่าสัมภวกุมาร เชิญท่านไปถามอรรถและธรรม
กะเธอดูเถิด.
[2364] ชาวเราเอ๋ย ปัญหานี้ เป็นธรรม
น่าอัศจรรย์จริง เราไม่พอใจเลย ชนทั้ง 3 คน คือ
บิดาและบุตรสองคน ยังไม่มีปัญญารู้แจ้งธรรมนี้.

ท่านทั้งหลายถูกถามแล้ว ยังไม่สามารถบอก
อรรถและธรรนนั้นได้ เด็กเจ็ดขวบถูกถามถึงอรรถ
และธรรม จะรู้เรื่องได้อย่างไร ?
[2365] ดูก่อนท่านพราหมณ์ ท่านยังไม่ได้
ถามสัภวกุมาร อย่าเพิ่งเข้าใจว่า เธอเป็นเด็ก ท่าน
ถามสัมภวกุมารแล้ว จะพึงรู้อรรถและธรรมได้.
พระจันทร์ปราศจากมลทิน โคจรไปในอากาศ
ย่อมสว่างไสวล่วงหมู่ดาวทั้งปวง ในโลกนี้ด้วยรัศมี
ฉันใด สัมภวกุมาร แม้ยังเป็นเด็กก็ฉันนั้น ย่อมไพโรจน์
ล่วงบัณฑิตทั้งหลาย เพราะประกอบด้วยปัญญา ดูก่อน
พราหมณ์ ท่านยังไม่ได้ถามสัมภวกุมาร อย่าเพิ่งเข้า
ใจว่า เธอเป็นเด็กท่านถามสัมภวกุมารแล้วจะพึงรู้
อรรถและธรรมได้.
ดูก่อนท่านพราหมณ์ เดือน 5 ในคิมหันตฤดู
ย่อมสวยงามยิ่งกว่าเดือนอื่น ๆ ด้วยต้นไม้และดอกไม้
ฉันใด สัมภวกุมาร แม้ยังเป็นเด็กก็ฉันนั้น ย่อมไพโรจน์
ล่วงบัณฑิตทั้งหลาย เพราะประกอบด้วยปัญญา ดูก่อน
พราหมณ์ ท่านยังไม่ได้ถามสัมภวกุมาร อย่าเพิ่ง
เข้าใจว่าเป็นเด็ก ท่านถามสัมภวกุมารแล้ว จะพึงรู้
อรรถและธรรมได้.
ดูก่อนท่านพราหมณ์ หิมวันตบรรพต ชื่อว่า
คันธมาทน์ ดารดาษไปด้วยไม้ต่าง ๆ พรรณ เป็นที่

อยู่อาศัยแห่งทวยเทพ ย่อมสง่างามและหอมตลบไป
ทั่วทิศ ด้วยทิพยโอสถฉันใด สัมภวกุมารแม้ยังเป็น
เด็กก็ฉันนั้น ย่อมไพโรจน์ล่วงบัณฑิตทั้งหลาย เพราะ
ประกอบด้วยปัญญา ดูก่อนท่านพราหมณ์ ท่านยังไม่
ได้ถามสัมภวกุมาร อย่าเพิ่งเข้าใจว่า เธอเป็นเด็ก
ท่านถามสัมภวกุมารแล้ว จะพึงรู้อรรถและธรรมได้.
ไฟป่ามีเปลวรุ่งเรือง ไหม้ลามไปในป่า ไม่อิ่ม
มีแนวดำ คุเรื่อยไปมีเปรียงเป็นอาหาร มีควันเป็นธง
ไหม้แนวไพรสูง ๆ เวลากลางคืนสว่างลุกโชน อยู่
บนยอดภูเขาฉันใด สัมภวกุมารแม้ยังเป็นเด็กก็ฉันนั้น
ย่อมไพโรจน์ ล่วงบัณฑิตทั้งหลาย เพราะประกอบด้วย
ปัญญา ดูก่อนพราหมณ์ ท่านยังไม่ได้ถามสัมภวกุมาร
อย่าเพิ่งเข้าใจว่าเธอเป็นเด็ก ท่านถามสัมภวกุมารแล้ว
จะพึงรู้อรรถและธรรมได้.
ม้าดี จะรู้ได้เพราะฝีเท้า โคพลิพัทธ์จะรู้ได้
เพราะเข็นภาระไป แม่โคนมจะรู้ได้เพราะน้ำนมดี
และบัณฑิตจะรู้ได้เมื่อเจรจา ฉันใด สัมภวกุมารแม้ยัง
เป็นเด็กก็ฉันนั้น เพราะประกอบด้วยปัญญา ดูก่อน
ท่านพราหมณ์ ท่านยังไม่ได้ถามสัมภวกุมาร อย่าเพิ่ง
เข้าใจว่า เธอเป็นเด็ก ท่านถามสัมภวกุมารแล้ว จะ
พึงรู้อรรถและธรรมได้.

[2366] มหาพราหมณ์ภารทวาชโคตรนั้น ได้
ไปยังสำนักของสัมภวกุมาร เห็นเธอกำลังเล่นอยู่นอก
บ้าน.
[2367] เราเป็นราชทูตของพระเจ้าโกรัพยราช
ผู้ยงยศทรงส่งมา พระองค์ผู้ ยุธิฏฐิลโคตร ดำรัส
ถามถึงอรรถและธรรม ได้ตรัสแล้วดังกล่าวมา ดูก่อน
สัมภวกุมาร ท่านถูกถามแล้ว ขอจงบอกอรรถและ
ธรรมนั้นเถิด.
[2368] เชิญนั่ง ข้าพเจ้าจักแก้ปัญหาแก่ท่าน
อย่างนักปราชญ์ อนึ่ง พระราชาย่อมทรงทราบอรรถ
และธรรมนั้นได้ แต่จักทรงทำตามหรือไม่ ไม่ทราบ
[2369] ข้าแต่สุจีรตพราหมณ์ บุคคลผู้ถูกพระ
ราชาตรัสถามแล้ว พึงทูลกิจที่ควรทำในวันนี้ ให้ทำ
ในวันพรุ่งนี้ พระเจ้ายุธิฏฐิละ อย่าได้ทรงทำตาม ใน
เมื่อประโยชน์เกิดขึ้น.
ข้าแต่ท่านสุจีรตะ เมื่อบุคคลพระราชาดำรัส
ถาม พึงกราบทูลธรรมภายในเท่านั้น ไม่พึงให้เสด็จ
ไปยังหนทางที่ผิด ดุจคนโง่หาความคิดมิได้ ฉะนั้น.
กษัตริย์ไม่ควรลืมพระองค์ ไม่ควรประพฤติ
อธรรม ไม่ควรข้ามไปในที่มิใช่ท่า ไม่พึงทรงขวน
ขวาย ในสิ่งอันไม่เป็นประโยชน์.

อนึ่ง กษัตริย์พระองค์ใด ทรงทราบว่า ควรจะ
ทำฐานะเหล่านี้ กษัตริย์พระองค์นั้น ย่อมทรงพระ
เจริญทุกเมื่อ ดุจพระจันทร์ ในสุกปักษ์ ฉะนั้น.
กษัตริย์พระองค์นั้น ย่อมเป็นที่รักใคร่ของพระ
ประยูรญาติทั้งหลายด้วย ย่อมทรงรุ่งโรจน์ในหมู่มิตร
ด้วย ท้าวเธอมีพระปรีชา เมื่อเสด็จสวรรคตแล้ว ย่อม
เข้าถึงโลกสวรรค์.

จบสัมภวชาดกที่ 5

อรรถกถาสัมภวชาดก



พระบรมศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรง
พระปรารภพระปัญญาบารมี ตรัสพระธรรมเทศนานี้มีคำเริ่มต้นว่า รชฺชญฺจ
ปฏิปนฺนสฺสา
ดังนี้.
เรื่องปัจจุบันจักมีแจ้ง ในมหาอุมมังคชาดก. ส่วนเรื่องในอดีตมีว่า
พระราชาทรงพระนามว่า ธนัญชยโกรัพยะ เสรยราชสมบัติในอินทปัตต-
นคร แคว้นกุรุ
พราหมณปุโรหิต นามว่า สุจีรตะ ได้เป็นผู้กล่าวสอน
อรรถธรรมของพระองค์. พระราชาทรงบำเพ็ญบุญกุศลมีทานเป็นต้น ทรง
ครองราชสมบัติโดยทศพิธราชธรรม ครั้นวันหนึ่ง จะทรงถกปัญหาชื่อธัมม-
ยาคะ
จึงเชิญสุจีรตพราหมณ์ให้นั่งบนอาสนะ ทรงทำสักการะแล้ว เมื่อจะ
ตรัสถาม ได้ตรัสคาถา 4 คาถา ความว่า