เมนู

14. อโยฆรชาดก



ว่าด้วยอำนาจของมัจจุราช



[2261]

(อโยฆรกุมารตรัสว่า) สัตว์ถือปฏิสนธิ
กลางคืนก็ตาม กลางวันก็ตาม ย่อมอยู่ในครรภ์มารดา
ก่อน สัตว์นั้นย่อมเกิดเพราะกำลังลม ย่อมไปสู่ความ
เป็นกลละเป็นต้น ย่อมไม่ย้อนกลับมาสู่ความเป็นกลละ
เป็นต้นอีก.
[2262] นรชนทั้งหลาย จะยกพลโยธายุทธ-
นาการกับชรา พยาธิ มรณะไม่ได้เลยเป็นอันขาด
เพราะว่าชีวิตของสัตว์ทั้งมวลนี้ ถูกความเกิดและความ
แก่เข้าไปประทุษร้ายเบียดเบียน เพราะเหตุนั้น ข้า-
พระพุทธเจ้าจึงคิดว่า จะบวชประพฤติธรรม.
[2263] พระราชาผู้เป็นอธิบดีในรัฐทั้งหลาย
ย่อมจะข่มขี่ราชศัตรู ผู้มีเสนาอันประกอบด้วยองค์ 4
ล้วนมีรูปร่างน่าสะพรึงกลัว เอาชัยชนะได้ แต่ไม่
สามารถจะชนะเสนาแห่งมัจจุราชได้ เพราะเหตุนั้น
ข้าพระพุทธเจ้าจึงคิดว่า จะบวชประพฤติธรรม.
[2264] พระราชาบางพวก แวดล้อมด้วยพล-
ม้า พลรถ และพลเดินเท้า ย่อมพ้นจากเงื้อมมือของ
ข้าศึกได้ แต่ก็ไม่อาจจะพ้นจากสำนักของมัจจุราชได้

เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้า จึงคิดว่า จะบวชประ-
พฤติธรรม.
[2265] พระราชาทั้งหลายผู้กล้าหาญ ย่อม
หักค่ายทำลายพระนคร แห่งราชศัตรูให้ย่อยยับได้
และกำจัดมหาชนได้ด้วยพลช้าง พลม้า พลรถ และ
พลเดินเท้า แต่ไม่สามารถจะหักรานเสนาแห่งมัจจุราช
ได้ เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้าจึงคิดว่า จะบวช
ประพฤติธรรม.
[2266] คชสารทั้งหลายที่ตกมัน มีมันเหลว
แตกออกจากกระพอง ย่อมย่ำยีนครทั้งหลายและเข่น-
ฆ่าประชาชนได้ แต่ไม่สามารถจะย่ำยีเสนาแห่งมัจจุ-
ราชได้ เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้าจึงคิดว่า จะบวช
ประพฤติธรรม.
[2267] นายขมังธนูทั้งหลาย แม้มีมืออันได้
ฝึกฝนมาดีแล้ว เป็นผู้มีปัญญา สามารถยิ่งขึ้นให้ถูก
ได้ในที่ไกล ยิงได้แม่นยำไม่ผิดพลาด ก็ไม่สามารถ
จะยิ่งต่อต้านมฤตยูได้ เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้า
จึงคิดว่า จะบวชประพฤติธรรม.
[2268] สระทั้งหลาย และมหาปฐพี กับทั้ง
ภูเขาราวไพร ย่อมเสื่อมสิ้นไป สังขารทั้งปวงนั้น จะ
ตั้งอยู่นานสักเท่าไร ก็ย่อมเสื่อมสิ้นไป เพราะสังขาร
ทั้งปวงนั้น ครั้นถึงกาลกำหนดแล้ว ย่อมจะแตกทำลาย

ไป เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้าจึงคิดว่า จะบวช
ประพฤติธรรม.
[2269] แท้จริงชีวิตของสัตว์ทั้งมวล ทั้งที่เป็น
สตรีและบุรุษในโลกนี้ เป็นของหวั่นไหวเหมือนแผ่น
ผ้าของนักเลงสุรา และต้นไม้เกิดใกล้ฝั่ง เป็นของ
หวั่นไหว ไม่ยั่งยืนฉะนั้น เพราะเหตุนั้น ข้าพระ-
พุทธเจ้าจึงคิดว่า จะบวชประพฤติธรรม.
[2270] ผลไม้ที่สุกแล้ว ย่อมหล่นล่วง ฉันใด
สัตว์ทั้งหลาย ทั้งหนุ่มแก่ ทั้งปานกลาง ทั้งหญิงทั้ง
ชาย ย่อมเป็นผู้มีสรีระทำลายหล่นไป ฉันนั้น เพราะ
เหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้าจึงคิดว่า จะบวชประพฤติ
ธรรม.
[2271] พระจันทร์อันเป็นดาราแห่งดวงดาว
เป็นฉันใด วัยนี้หาเป็นฉันนั้นไม่ เพราะส่วนใดล่วง
ไปแล้ว ส่วนนั้นเป็นอันล่วงไปแล้วในบัดนี้ อนึ่ง
ความยินดีในกามคุณของคนแก่ชราแล้วย่อมไม่มี ความ
สุขจะมีมาแต่ไหน เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้า
จึงคิดว่า จะบวชประพฤติธรรม.
[2272] ยักษ์ก็ดี ปีศาจก็ดี หรือเปรตก็ดี
โกรธเคืองแล้วย่อมเข้าสิงมนุษย์ได้ แต่ไม่สามารถจะ

เข้าสิงมัจจุราชได้เลย เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้า
จึงคิดว่า จะบวชประพฤติธรรม.
[2273] มนุษย์ทั้งหลายย่อมกระทำการบวง-
สรวงยักษ์ ปีศาจ หรือเปรตทั้งหลายผู้โกรธเคือง
แล้วได้ แต่ไม่สามารถจะบวงสรวงมัจจุราชได้เลย
เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้าจึงคิดว่า จะบวชประ-
พฤติธรรม.
[2274] พระราชาทั้งหลายทรงทราบโทษผิด
แล้ว ย่อมลงอาชญาผู้กระทำความผิด ผู้ประทุษร้าย
ต่อราชสมบัติ และผู้เบียดเบียนประชาชน ตามสมควร
แต่ไม่สามารถลงอาชญามัจจุราชได้เลย เพราะเหตุนั้น
ข้าพระพุทธเจ้าจึงคิดว่า จะบวชประพฤติธรรม.
[2275] ชนทั้งหลายผู้กระทำความผิด ฐาน
ประทุษร้ายต่อพระราชาก็ดี ผู้ประทุษร้ายต่อราชสมบัติ
ก็ดี ผู้เบียดเบียนประชาชนก็ดี ย่อมจะขอพระราชทาน
อภัยโทษได้ แต่หาทำมัจจุราชให้ผ่อนปรนกรุณาปรานี
ได้ไม่ เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้าจึงคิดว่า จะ
บวชประพฤติธรรม.
[2276] มัจจุราชมิได้มีความเกรงใจเลยว่า ผู้นี้
เป็นกษัตริย์ ผู้นี้เป็นพราหมณ์ ผู้นี้มั่งคั่ง ผู้นี้มีกำลัง

ผู้นี้มีเดชานุภาพ ย่อมย่ำยีทั่วไปหมด เพราะเหตุนั้น
ข้าพระพุทธเจ้า จึงคิดว่า จะบวชประพฤติธรรม.
[2277] ราชสีห์ก็ดี เสือโคร่งก็ดี เสือเหลือง
ก็ดี ย่อมข่มขี่เคี้ยวกินสัตว์ที่ดิ้นรนอยู่ได้ แต่ไม่สามารถ
จะเคี้ยวกินมัจจุราชได้ เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้า
จึงคิดว่า จะบวชประพฤติธรรม.
[2278] นักเล่นกลทั้งหลาย เมื่อทำมายากล ณ
ท่ามกลางสนาม ย่อมลวงนัยน์ตาประชาชนในที่นั้น ๆ
ให้หลงเชื่อได้ แต่ไม่สามารถจะลวงมัจจุราชให้หลง-
เชื่อได้เลย เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้า จึงคิดว่า
จะบวชประพฤติธรรม.
[2279] อสรพิษ ที่มีพิษร้าย โกรธขึ้นมาแล้ว
ย่อมขบกัดมนุษย์ให้ถึงตายได้ แต่ไม่สามารถจะขบกัด
มัจจุราชให้ตายได้ เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้า
จึงคิดว่า จะบวชประพฤติธรรม.
[2280] อสรพิษโกรธขึ้นแล้วขบกัดผู้ใด หมอ
ทั้งหลาย ย่อมถอนพิษร้ายนั้นได้ แต่จะถอนพิษของ
ผู้ถูกมัจจุราชประทุษร้ายหาได้ไม่ เพราะเหตุนั้น ข้า
พระพุทธเจ้าจึงคิดว่า จะบวชประพฤติธรรม.
[2281] แพทย์ผู้มีชื่อเสียงเหล่านี้คือ แพทย์-
ธรรมมนตรี แพทย์เวตตรุณะ แพทย์โภชะอาจจะ

กำจัดพิษพระยานาคได้ แต่แพทย์เหล่านั้นต้องทำกาล
กิริยานอนตาย เพราะเหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้าจึงคิดว่า
จะบวชประพฤติธรรม.
[2282] วิชาธรทั้งหลาย เมื่อร่ายอาคมชื่อ
โฆรมนต์ ย่อมหายตัวไปได้ด้วยโอสถทั้งหลาย แต่จะ
หายตัวไม่ให้มัจจุราชเห็นไม่ได้เลย เพราะเหตุนั้น ข้า
พระพุทธเจ้า จึงคิดว่า จะบวชประพฤติธรรม.
[2283] ธรรมแลย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
ธรรมที่บุคคลประพฤติดีแล้วย่อมนำสุขมาให้ นี้เป็น
อานิสงส์ ในธรรมที่ประพฤติดีแล้ว ผู้มีปกติประพฤติ
ธรรม ย่อมไม่ไปสู่ทุคติ.
[2284] สภาพทั้งสองคือ ธรรม และอธรรม
มีวิบากไม่เสมอกัน อธรรมย่อมนำไปสู่นรก ธรรม
ย่อมยังสัตว์ให้ถึงสุคติ.

จบอโยฆรชาดกที่ 14
จบวีสตินิบาตชาดก

อรรถกถาอโยฆรชาดก



พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภ
การออกมหาภิเนษกรมณ์นั่นเอง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า ยเม-
กรตฺตึ ปฐมํ
ดังนี้.
แท้จริงแม้ในครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ตรัสว่า ใช่แต่ในชาตินี้
เท่านั้นก็หามิได้ แม้ในชาติก่อน ตถาคตก็เคยออกมหาภิเนษกรมณ์เหมือนกัน
แล้วทรงนำอดีตนิทานมาตรัสดังนี้
เมื่อพระเจ้าพรหมทัต เสวยราชสมบัติ ณ พระนครพาราณสี พระ-
อัครมเหสีของท้าวเธอทรงพระครรภ์ ได้รับการบริหารพระครรภ์เป็นอย่างดี
จนพระครรภ์แก่แล้ว ประสูติพระราชโอรส ในระหว่างเวลาปัจจุสมัยใกล้รุ่ง
ในภพก่อนมีสตรีผู้หนึ่งร่วมสามีเดียวกันกับพระนางเทวีนั้น ตั้งความปรารถนา
ไว้ว่า ขอให้เราได้กินลูกของท่านที่คลอดแล้ว ๆ. ได้ยินว่า สตรีผู้นั้น ตนเอง
เป็นหญิงหมัน ทำความปรารถนาเช่นนั้น เพราะความโกรธสตรีที่มีบุตร
แล้วได้มาบังเกิดในกำเนิดนางยักษิณี สตรีที่มีบุตรนั้นได้มาเป็นพระอัครมเหสี
ของพระเจ้าพรหมทัต จนคลอดพระโอรสองค์นี้ คราวนั้น นางยักษิณีได้โอกาส
จึงแปลงกายมา เมื่อพระเทวีทอดพระเนตรดูอยู่นั้นแล ตรงเข้าจับทารกนั้น
แล้วหนีไป. พระนางเทวีทรงร้องขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า นางยักษิณีจับโอรส
ของเราหนีไปแล้ว. ฝ่ายนางยักษิณี ก็กัดกินทารกทำเสียงมุรุ มุรุ เหมือนกิน
เง่าบัว แสดงท่ายกมือชี้หน้าคุกคามพระเทวี แล้วก็หลีกหนีไป พระราชาทรง
สดับพระเสาวนีย์ของพระเทวีแล้วทรงดำริว่า ไฉนนางยักษิณีจึงบังอาจการทำ
ได้แต่ทรงนิ่งเฉยเสีย. ในกาลที่พระเทวีทรงประสูติพระโอรสอีก ท้าวเธอได้ทรง