เมนู

พระสุตตันตปิฎก



ขุททกนิกาย ชาดก



เล่มที่ 3 ภาคที่ 7



ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



วีสตินิบาตชาดก



1. มาตังคชาดก



ว่าด้วยอานุภาพของมาตังคฤๅษี



[2033] ท่านมีปกตินุ่งห่มไม่สมควร ดุจปีศาจ
เปรอะเปื้อนด้วยฝุ่นละออง สวมใส่ผ้าขี้ริ้ว ที่ได้จาก
กองขยะไว้ที่คอ มาจากไหน ท่านเป็นใคร เป็นผู้
ไม่ควรแก่ทักษิณาทานเลย.
[2034] ข้าวน้ำนี้จัดไว้เพื่อท่านผู้เรืองยศ
พราหมณ์ทั้งหลายย่อมขบเคี้ยวบริโภค และดื่มข้าวน้ำ
ของท่านนั้น ท่านรู้จักข้าพเจ้าว่า เป็นผู้อาศัยโภชนะ
ที่ผู้อื่นให้เลี้ยงชีวิต แม้ถึงจะเป็นคนจัณฑาล ก็ขอจง
ได้ก้อนข้าวบ้างเถิด.

[2035] ข้าวน้ำของเรานี้เราจัดไว้เพื่อพราหมณ์
ทั้งหลาย ทานวัตถุนี้ เราเชื่อว่าย่อมเป็นไปเพื่อประ-
โยชน์แก่ตน ท่านจงหลีกไปเสียจากที่นี่ จะมายืนอยู่
ที่นี่เพื่ออะไร เจ้าคนเลว คนอย่างเราย่อมไม่ให้ทาน
แก่เจ้า.

[2036] ชาวนาทั้งหลายเมื่อหวังผลในข้าวกล้า
ย่อมหว่านพืชพันธุ์อาหาร ลงในที่ดอนบ้าง ในที่
ลุ่มบ้าง ในที่เสมอไม่ลุ่มไม่ดอนบ้าง ฉันใด ท่านจง
ให้ทานแก่ปฏิคาหกทั้งหลาย ทั่วไปด้วยศรัทธา ฉันนั้น
เมื่อท่านให้ทานอยู่อย่างนี้ ไฉนจะพึงได้ทักขิเณยย-
บุคคล ที่น่ายินดีเล่า.

[2037] เราย่อมตั้งไว้ซึ่งพืชทั้งหลาย ในเขต
เหล่าใด เขตเหล่านั้น เรารู้แจ้งแล้วในโลก พราหมณ์
เหล่าใดสมบูรณ์ด้วยชาติและมนต์ พราหมณ์เหล่านั้น
ชื่อว่าเป็นเขต มีศีลเป็นที่รักในโลกนี้.

[2038] กิเลสทั้งหลายเหล่านี้คือ ชาติมทะ
ความเมาเพราะชาติ 1 อติมานะ ความดูหมิ่นท่าน 1
โลภะ ความโลภอยากได้ของเขา 1 โทสะ ความคิดประ-
ทุษร้าย1มทะ ความประมาทมัวเมา 1โมหะ ความหลง
1 ทั้งหมดเป็นโทษ มิใช่คุณ ย่อมมีในเขตเหล่าใด
เขตเหล่านั้น ไม่ใช่เขตอันดีมีศีลเป็นที่รัก ในโลกนี้.
กิเลสทั้งหลายเหล่านี้คือ ชาติมทะ อติมานะ โลภะ

โทสะ มทะ และโมหะ ทั้งหมดเป็นโทษมิใช่คุณไม่มี
ในเขตเหล่าใด เขตเหล่านั้น จัดว่าเป็นเขตดีมีศีลเป็นที่
รักในโลกนี้.

[2039] คนเฝ้าประตูทั้งสาม คือ อุปโชติยะ
อุปวัชฌะ และภัณฑกุจฉิ ไปไหนกันเสียหมดเล่า
ท่านทั้งหลายจงลงอาญาและเฆี่ยนตีคนจัณฑาลนี้ แล้ว
ลากคอคนลามกนี้ไสหัวไปให้พ้น.

[2040] ผู้ใดบริภาษฤาษี ผู้นั้นชื่อว่าขุดภูเขา
ด้วยเล็บ ชื่อว่าเคี้ยวกินก้อนเหล็กด้วยฟัน ชื่อว่าพยา-
ยามกลืนกินไฟ.

[2041] มาตังคฤาษี ผู้มีสัจจะเป็นเครื่องก้าว
ไปในเบื้องหน้าเป็นสภาพ ครั้นกล่าวคาถานี้แล้ว
เมื่อพราหมณ์ทั้งหลายแลดูอยู่ได้เหาะหลีกผ่านไปใน
อากาศ.

[2042] ศีรษะของลูกเรา บิดกลับไปอยู่เบื้อง
หลัง แขนเหยียดตรงไปไม่ไหวติง นัยน์ตาขาวเหมือน
คนตาย ใครมาทำบุตรของเราให้เป็นอย่างนี้.

[2043] สมณะรูปหนึ่ง มีปกตินุ่งห่มไม่สมควร
สกปรกดุจปีศาจ เปรอะเปื้อนด้วยฝุ่นละออง สวมใส่
ผ้าขี้ริ้ว ที่ได้จากกองขยะไว้ที่คอ ได้มา ณ ที่นี้ สมณะ
รูปนั้น ได้ทำบุตรของท่านให้เป็นอย่างนี้.

[2044] ดูก่อนมาณพทั้งหลายสมณะผู้มีปัญญา
เสมอด้วยแผ่นดิน ได้ไปแล้วสู่ทิศใด ท่านทั้งหลาย
จงบอกเนื้อความนั้นแก่เรา เราจักไปยังสำนักของท่าน
ขอให้ท่านอดโทษนั้นเสีย ไฉนหนอ เราจะพึงได้ชีวิต
บุตรคืนมา.

[2045] ฤๅษีผู้มีปัญญาเสมอด้วยแผ่นดินได้ไป
แล้วในอากาศวิถี ราวกะว่าพระจันทร์ในวันเพ็ญ 15
ค่ำ อันอยู่ท่ามกลางระหว่างอากาศ อนึ่ง พระฤๅษี
ผู้มีปฏิญาณ มั่นในสัจจะทรงคุณธรรมอันดีงามนั้น
ได้ไปทางทิศบูรพา.

[2046] ศีรษะของลูกเรา บิดกลับไปอยู่เบื้อง-
หลัง แขนเหยียดตรงไม่ไหวติง นัยน์ตาขาวเหมือน
คนตาย ใครมาทำบุตรของเราให้เป็นอย่างนี้.

[2047] ยักษ์ทั้งหลาย ผู้มีอานุภาพมากมีอยู่แล
ยักษ์เหล่านั้น พากันติดตามพระฤๅษีมีคุณธรรมมาแล้ว
รู้ว่าบุตรของท่านมีจิตคิดประทุษร้าย ก็โกรธเคืองจึง
ทำบุตรของท่านให้เป็นอย่างนี้แล.

[2048] ถ้ายักษ์ทั้งหลายได้ทำบุตรของดิฉันให้
เป็นอย่างนี้ ขอท่านผู้เป็นพรหมจารีเท่านั้น อย่าได้
โกรธบุตรดิฉันเลย ดิฉันขอถึงฝ่าเท้าของท่านนั่นแหละ
เป็นที่พึ่ง ข้าแต่ท่านผู้เป็นภิกษุ ดิฉันตามมาก็เพราะ
ความเศร้าโศกถึงบุตร.

[2049] ในคราวที่บุตรของท่านด่าเราก็ดี และ
เมื่อท่านมาอ้อนวอนอยู่ ณ บัดนี้ก็ดี จิตคิดประทุษร้าย
แม้หน่อยหนึ่ง มิได้มีแก่เราเลย แต่บุตรของท่านเป็น
คนประมาท เพราะความมัวเมาว่า เรียนจะไตรเพท
แม้ถึงจะเรียนจบไตรเพทแล้ว ก็ยังไม่รู้จักสิ่งที่เป็น
ประโยชน์.

[2050] ข้าแต่ท่านผู้เป็นภิกษุ ความจำของ
บุรุษ ย่อมเลื่อนลืมได้ โดยครู่เดียวเป็นแน่แท้ ท่าน
ผู้มีปัญญาเสมอด้วยแผ่นดิน ขอได้โปรดยกโทษ
สักครั้งเถิด บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมเป็นผู้ไม่มีความ
โกรธเป็นกำลัง.

[2051] มัณฑัพยมาณพ บุตรของท่าน ผู้มี
ปัญญาน้อย จงบริโภคก้อนข้าวที่เราฉันเหลือนี้เถิด
ยักษ์ทั้งหลายจะไม่พึงเบียดเบียนบุตรของท่านเลย อนึ่ง
บุตรของท่านจะหายโรคในทันที.

[2052] พ่อมัณฑัพยะ เจ้ายังเป็นคนโง่เขลา
มีปัญญาน้อย เจ้าเป็นผู้ไม่ฉลาดในเขตบุญทั้งหลาย
ได้ให้ทานในหมู่ชนผู้ประกอบด้วยกิเลส ดุจน้ำฝาด-
ใหญ่ มีกรรมเศร้าหมองไม่สำรวม บรรดาทักขิเณยย-
บุคคลของเจ้าบางพวกเกล้าผมเป็นเซิง นุ่งห่มหนังเสือ

ปากรกรุงรังไปด้วยหนวดเครา ดังปากบ่อน้ำเก่ารกไป
ด้วยกอหญ้า เจ้าจงดูหมู่ชนที่มีรูปร่างน่าเกลียดนี้ การ
เกล้าผมผูกเป็นเซิง หาผู้ป้องกันผู้มีปัญญาน้อยได้ไม่
ท่านเหล่าใด สำรอก ราคะ โทสะ และอวิชชาแล้ว
หรือเป็นพระอรหันต์ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว ทานที่บุคคล
ถวายในท่านเหล่านั้น ย่อมมีผลมาก.

[2053] เมื่อพระเจ้าเมชฌราช เข้าไปทำลาย
ชีวิต ท่านมาตังคบัณฑิต ผู้ยิ่งยศ วงศ์กษัตริย์ เมชฌ-
ราช พร้อมด้วยราชบริษัท ก็ได้ขาดสูญลงตั้งแต่นั้นมา.

จบมาตังคชาดกที่ 1