เมนู

2. ปทุมวรรค


1. ปทุมชาดก


ไม่ควรพูดให้เกิดความจริง


[382] ผมและหนวดที่โกนแล้วตัดแล้ว ย่อม
งอกขึ้นใหม่ได้ ฉันใด จมูกของท่านจงงอก
ขึ้นใหม่ ฉันนั้น ข้าพเจ้าขอดอกปทุม
ขอท่านจงให้แก่ข้าพเจ้าเกิด.
[383] พืชที่เก็บไว้ในสารทกาล เอาหว่านลง
ในนา ย่อมงอกขึ้น ฉันใด จมูกของท่าน
จงงอกขึ้นใหม่ ฉันนั้น ข้าพเจ้าขอดอกปทุม
ขอท่านจงให้แก่ข้าพเจ้าเถิด.
[384] แม้คนทั้งสองนั้นคิดว่า ท่านจักให้
ดอกปทุมแก่ตน จึงได้พูดพล่ามไป คน
ทั้งสองนั้น พึงกล่าวหรือไม่กล่าวก็ตาม
จมูกย่อมงอกขึ้นไม่ได้ ดูก่อนสหาย ข้าพเจ้า
ขอดอกปทุม ขอท่านจงให้แก่ข้าพเจ้าเถิด.
จบ ปทุมชาดกที่ 1

อรรถกถาปทุมวรรคที่ 2


อรรถกถาปทุมชาดกที่ 1


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
ภิกษุทั้งหลายผู้กระทำการบูชาด้วยดอกไม้ที่ต้นอานันทโพธิ์ จึงตรัส
เรื่องนี้มีคำเริ่มต้นว่า ยถา เกสา จ มสฺสุ จ ดังนี้ เรื่องนี้จักมี
แจ้งในกาลิงคโพธิชาดก.
ก็ต้นโพธิ์นั้น ชื่อว่าอานันทโพธิ์ เพราะเป็นต้นต้นโพธิ์ที่พระ-
อานันทเถระปลูกไว้. จริงอยู่ความที่พระเถระปลูกต้นโพ ไว้ที่ซุ้ม
ประตูพระเชตวันวิหาร ได้แพร่พัดไปตลอดทั่วชมพูทวีป. ครั้งนั้น
ภิกษุชาวชนบทบางพวกพากันคิดว่า จักกระทำการบูชาด้วยระเบียบ
ดอกไม้ที่ต้นอานันทโพธิ์ จึงไปยังพระเชตวันวิหารถวายบังคมพระ-
ศาสดา วันรุ่งขึ้น เข้าไปในเมืองสาวัตถี ไปยังถนนที่มีดอกอุบลขาย
ไม่ได้ดอกไม้ จึงมาบอกแก่พระอานันทเถระว่า ท่านผู้มีอายุ พวก
กระผมคิดกันว่า จักกระทำบูชาด้วยดอกไม้ที่ต้นโพธิ์ จึงไปยังถนนที่มี
ดอกอุบลขาย ก็ไม่ได้แม้แต่ดอกเดียว. พระเถระกล่าวว่า ผู้มีอายุ
ทั้งหลาย ผมจักนำมาถวายท่าน แล้วเดินไปยังถนนที่มีดอกอุบลขาย
เหล่านั้น. ภิกษุเหล่านั้นถือดอกอุบลเขียวเหล่านั้นไปบูชาที่ต้นโพธิ์.
ภิกษุทั้งหลายรู้เรื่องราวอันนั้น จึงนั่งสนทนาถึงคุณของพระเถระใน