เมนู

10. ปลาสชาดก


ว่าด้วยเหตุที่จะต้องหนีจากไป


[798] พระยาหงส์ได้กล่าวกะปลาสเทวดาว่า
ดูก่อนสหาย ต้นไทรเกิดติดอยู่ที่ค่าคบของ
ท่านแล้ว มันเจริญขึ้นแล้ว จะตัดสิ่งอัน
เป็นที่รักของท่านเสีย.
[799] ข้าพเจ้าจะเป็นที่พึ่งทำต้นไทรให้เจริญ
ขึ้น ต้นไทรนี้จักเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า
เหมือนมารดาบิดาเป็นที่พึ่งของบุตรแล้ว
บุตรกลับเป็นที่พึ่งของมารดาบิดาฉะนั้น.
[800] มหาใดท่านจึงให้ต้นไม้ที่น่าหวาดเสีย
ดุจข้าศึก เจริญขั้นอยู่ที่ด่าคบ เหตุนั้น
ข้าพเจ้าบอกท่านแล้วจะไป ความเจริญแห่ง
ต้นไทรนั้นข้าพเจ้าไม่ชอบใจเลย.
[801] บัดนี้ ต้นไทรนี้ทำให้เราหวาดเสียว ภัย
อันใหญ่หลวงได้มาถึงเรา เพราะไม่รู้สึกถึง
คำของพระยาหงส์อันใหญ่หลวง ซึ่งควร
เปรียบด้วยขุนเขาสิเนรุราช.

[802] ผู้ใดเมื่อกำลังเจริญอยู่ กระทำที่พึ่ง
อาศัยให้พินาศไปเสีย ความเจริญของผู้นั้น
ท่านผู้ฉลาดไม่สรรเสริญ นักปราชญ์รังเกียจ
ความพินาศ จึงเพียรพยายามเพื่อจะตัดราก
เหง้าของอันตรายนั้นเสีย.

จบ ปลาสชาดกที่ 10

อรรถกถาปลาสชาดกที่ 10


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
การข่มกิเลส จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า หํโส
ปลาสมวจ
ดังนี้.
เรื่องปัจจุบันจักมีแจ้งในปัญญาสชาดก. ส่วนในชาดกนี้
พระศาสดาตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ขึ้นชื่อว่ากิเลสควรจะรังเกียจแท้ กิเลสแม้จะมีประมาณน้อยก็ทำให้
ถึงความพินาศได้เหมือนหน่อต้นไทร. แม้โบราณกบัณทิตทั้งหลาย
ก็รังเกียจสิ่งที่ควรรังเกียจมาแล้วเหมือนกัน ครั้นตรัสแล้ว ทรงนำเอา
เรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนคร-
พาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในกำเนิดหงส์ทอง เจริญวัยแล้ว
อยู่ในถ้ำทอง ณ เขาจิตตกูฏ กินข้าวสาลีที่เกิดเองในสระที่เกิดเอง