เมนู

2. วานรชาดก


ผู้รู้เท่าถึงเหตุการณ์เอาตัวรอดได้


[666] ดูก่อนจระเข้ เราสามารถยกตนขึ้นจาก
น้ำสู่บกได้แล้ว บัดนี้ เราจะไม่ตกอยู่ใน
อำนาจของท่านอีกต่อไป.
[667] เราไม่ต้องการด้วยผลมะม่วง ผลหว้า
และผลขนุนทั้งหลาย ที่จะต้องข้ามฝั่งแม่น้ำ
ไปบริโภค ผลมะเดื่อของเราดีกว่า.
[668] ผู้ใดไม่รู้เท่าถึงเหตุการณ์อันเกิดขึ้นแล้ว
โดยฉับพลัน ผู้นั้นจะต้องตกอยู่ในอำนาจ
ของศัตรู และต้องเดือดร้อนใจในภายหลัง.
[669] ส่วนผู้ใดรู้เท่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดย
ฉับพลัน ผู้นั้นย่อมพ้นจากความคับขันอัน
เกิดแต่ศัตรู และไม่ต้องเดือดร้อนใจใน
ภายหลัง.

จบ วานรชาดกที่ 2

อรรถกถาวานรชาดกที่ 2


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร ทรงปรารภ
พระเทวทัตตะเกียกตะกายเพื่อจะฆ่าพระองค์ จึงตรัสพระธรรมเทศนา
นี้ มีคำเริ่มต้นว่า อสกฺขึ วต อตฺตานํ ดังนี้. เรื่องปัจจุบันได้
ให้พิสดารไว้แล้วทีเดียว.
ส่วนเรื่องในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติ
ในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในกำเนิดกระบี่ ในหิมวันต-
ประเทศ เจริญวัยแล้วอยู่ ณ ที่ฝั่งแม่น้ำคงคา. ครั้งนั้น นางจระเข้
ตัวหนึ่งในแม่น้ำคงคา เกิดแพ้ท้อง อยากกินเนื้อหัวใจของพระ-
โพธิสัตว์ จึงบอกแก่จระเข้สามี. จระเข้สามีนั้นคิดว่า เราจักให้กระบี่
นั้นดำลงในน้ำแล้วฆ่าเสีย ให้เนื้อหัวใจแก่นางจระเข้ผู้ภรรยา จึงกล่าว
กะพระมหาสัตว์ว่า มาเถิดเพื่อน พวกเราจะไปกินผลมะม่วงที่ระหว่าง
เกาะด้วยกัน. พระมหาสัตว์กล่าวว่า เราจักไปได้อย่างไร. จระเข้
กล่าวว่า เราจักให้ท่านนั่งบนบัลลังเรานำไป. พระมหาสัตว์นั้นไม่รู้
ความคิดของจระเข้นั้น จึงโดดไปนั่งบนหลัง. จระเข้ไปได้หน่อยหนึ่ง
จึงเริ่มจะดำน้ำ ลำดับนั้น วานรจึงกล่าวกะจระเข้นั้นว่า ท่านผู้เจริญ
ท่านจะให้เราดำรงในน้ำทำไม. จระเข้กล่าวว่า เราจักฆ่าท่านแล้วให้เนื้อ
หัวใจแก่ภรรยาของเรา. วานรกล่าวว่า ช้าก่อน ท่านเข้าใจว่าเนื้อ
หัวใจของเราอยู่ที่อกหรือ. จระเข้กล่าวว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น เนื้อหัวใจ
ของท่านตั้งอยู่ที่ไหน. วานรกล่าวว่า ท่านไม่เห็นเนื้อหัวใจนั้น ซึ่ง