เมนู

6. พรหาฉัตตชาดก


เอาของน้อยแลกของมาก


[642] พระองค์ตรัสเพ้ออยู่ว่า หญ้า ๆ ใคร
หนอนำเอาหญ้ามาถวายพระองค์ พระองค์มี
กิจด้วยหญ้าหรือหนอ จึงตรัสถึงแต่หญ้า
เท่านั้น.
[643] ฉัตตฤๅษีผู้มีร่างกายสูงใหญ่ เป็นพรหม-
จารี เป็นพหูสูต มาอยู่ ณ ที่นี้ เขาลักเอา
ทรัพย์ของเราจนหมดสิ้นแล้ว ยังใส่หญ้าไว้
ในนุ่มแล้วหนีไป.
[644] การถือเอาทรัพย์ของตนไปหมด และ
การไม่ถือเอาหญ้า เป็นกิจที่ผู้ปรารถนาของ
น้อย แลเอาของมากพึงกระทำอย่างนั้น
ฉัตตฤๅษีใส่หญ้าไว้ในตุ่มหนีไปแล้ว การ
ปริเวทนาเพราะเรื่องนั้น จะมีประโยชน์อะไร.
[645] ผู้มีศีลทั้งหลายย่อมไม่ทำอย่างนั้น คน
พาลย่อมกระทำอนาจารอย่างนี้ ความเป็น

บัณฑิตจักทำคนทุศีล มีศีลไม่ยั่งยืน ให้
เป็นคนอย่างไร.
จบ พรหาฉัตตชาดกที่ 6

อรรถกถาพรหาฉัตตชาดกที่ 6


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
ภิกษุโกหก จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า ติณํ ติณนฺติ
ลปสิ
ดังนี้.
เรื่องปัจจุบันได้กล่าวไว้แล้วเหมือนกัน. ส่วนเรื่องในอดีตมีข้อ
ความดังต่อไปนี้.
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนคร.
พาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เป็นอำมาตย์ผู้สอนอรรถและธรรม ของ
พระเจ้าพาราณสีนั้น. พระเจ้าพาราณสีทรงยกกองทัพใหญ่ไปเฉพาะ
พระเจ้าโกศล เสด็จในนครสาวัตถีเข้านครแล้วจับพระเจ้าโกศลได้ด้วย
การรบ. ก็พระเจ้าโกศลมีพระราชโอรสนามว่าฉัตตกุมาร. ฉัตตกุมาร
นั้นปลอมเพศหนีออกไปยังเมืองตักกศิลาเรียนไตรเพท และศิลป-
ศาสตร์ 18 ประการ แล้วเสด็จออกจากเมืองตักกศิลา เที่ยวศึกษา
ศิลปะทุกลัทธิจนถึงปัจจันตคามแห่งหนึ่ง มีพระธิดาบส 500 รูป อาศัย
ปัจจันตคามนั้นอยู่ ณ บรรณศาลาในป่า. พระกุมารเข้าไปหาดาบส
เหล่านั้นแล้วคิดว่า จักศึกษาอะไร ๆ ในสำนักของพระดาบสแม้เหล่านี้