เมนู

5. ชัมพุกชาดก


ว่าด้วยโทษที่ไม่รู้ประมารตน


[638] ดูก่อนสุนัขจิ้งจอก ช้างนั้นตัวใหญ่ ร่าง
กายสูง งาก็ยาว ตัวท่านไม่ได้เกิดในตระกูล
สัตว์ที่จะจับมันได้.
[639] ผู้ใดมิใช่ราชสีห์ ยกตนเพราะสำคัญว่า
เป็นราชสีห์ ผู้นั้นย่อมเป็นเหมือนสุนัขจิ้ง-
จอกถูกช้างเหยียบ นอนหายใจแขม่ว ๆ
อยู่บนแผ่นดิน.
[640] ผู้ใดไม่รู้จักกำลังกาย กำลังความคิด และ
ชาติของผู้มียศเป็นชนชั้นสูง มีข้อลำล่ำสัน
กำลังมาก ผู้นั้นย่อมเป็นเหมือนสุนัขจิ้งจอก
ถูกช้างเหยียบนอนตายอยู่นี้.
[641] ส่วนผู้ใดใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำการ
งาน รู้จักกำลังกายและกำลังความคิดของตน
กำหนดด้วยคำพูดอันประกอบด้วยปัญญา
เป็นวาจาสุภาษิตผู้นั้นย่อมมีชัยอย่างไพบูลย์.

จบ ชัมพุกชาดกที่ 5

อรรถกถาชัมพุกชาดกที่ 5


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร ทรงปรารภ
เหตุที่พระเทวทัตทำท่าทางอย่างพระสุคตเจ้า จึงตรัสพระธรรมเทศนา
นี้ มีคำเริ่มต้นว่า พฺรหา ปวฑฺฒกาโย ดังนี้.
เรื่องปัจจุบันได้ให้พิสดารแล้วในขึ้นหลังแล. ส่วนในชาดกนี้
มีความย่อดังต่อไปนี้ :- พระศาสดาตรัสถามว่า สารีบุตร พระเทวทัต
เห็นพวกเธอแล้วกระทำอย่างไร พระเถระจึงกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ พระเทวทัตนั้นเมื่อจะกระทำตามพระองค์ ให้พันในมือ
ข้าพระองค์แล้วนอน ที่นั้น พระโกกาลิกะจึงเอาเข่าประหารพระเทวทัต
นั้นที่อก พระเทวทัตนั้นกระทำตามพระองค์ ได้เสวยทุกข์เห็นปานนี้.
พระศาสดาทรงสดับดังนั้นจึงตรัสว่า สารีบุตร เทวทัตกระทำตาม
กิริยาท่าทางของเรา จึงเสวยความทุกข์ มิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ใน
กาลก่อน ก็ได้เสวยมาแล้วเหมือนกัน อันพระเถระทูลอาราธนาแล้ว
จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในนคร
พาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในกำเนิดราชสีห์ อยู่ในถ้ำ ณ หิมวันต-
ประเทศ วันหนึ่ง ฆ่ากระบือแล้วกินเนื้อ ดื่มน้ำ แล้วกลับมายังถ้ำ
สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งพบราชสีห์นั้น เมื่อไม่อาจหลบหนี จึงนอนหมอบ
เมื่อราชสีห์กล่าวว่า อะไรกัน สุนัขจิ้งจอก มันจึงกล่าวว่า ท่านผู้เจริญ