เมนู

9. กาฬพาหุชาดก


ว่าด้วยลิงหลอกเจ้า


[614] ในกาลก่อน เราได้ข้าวและน้ำอันใด
จากสำนักพระราชา มาบัดนี้ ข้าวและน้ำนั้น
มาขึ้นอยู่กับสาขมฤคหมด ข้าแต่พี่ราธะ
บัดนี้ เราเป็นผู้อันพระเจ้าธนัญชัยไม่สักการะ
แล้ว พากันกลับไปป่าตามเดิมเถิด.
[615] ดูก่อนน้องโปฏฐปาทะ ธรรมในหมู่
มนุษย์เหล่านี้ คือ ลาภ ความเสื่อมลาภ ยศ
ความเสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ สุขและ
ทุกข์ เป็นของไม่เที่ยง เจ้าอย่าเศร้าโศก
เสียใจไปเลย จะเศร้าโศกเสียใจไปทำไม.
[616] ข้าแต่พี่ราธะ คุณพี่เป็นบัณฑิตแท้ ย่อม
รู้ถึงผลประโยชน์ทั้งหลายที่ยังไม่มาถึง ทำ
อย่างไรหนอ เราจะได้เห็นสาขมฤคผู้ลามก
ถูกเขาขับไล่ออกจากราชสกุล.
[617] ลิงกาฬพาหุ กระดิกหูและกลอกหน้า
กลอกตาทำให้พระราชกุมารทรงหวาดเสียว

พระทัยอยู่เสมอ ๆ มันจะทำตัวของมันเองให้
จำต้องห่างไกลจากข้าวและน้ำ.

จบ กาฬพาหุชาดกที่ 9

อรรถกถากาฬพาหุชาดกที่ 9


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร ทรงปรารภ
พระเทวทัตผู้เสื่อมลาภสักการะ จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้น
ว่า ยํ อนฺนปานสฺส ดังนี้.
แท้จริง เมื่อพระเทวทัตผูกความโกรธอันไม่บังควรในพระ-
ตถาคต แล้วประกอบนายขมังธนู โทษผิดของพระเทวทัตนั้น ได้
ปรากฏเพราะปล่อยช้างนาฬาคิรี. ลำดับนั้น คนทั้งหลายจึงพากัน
เลิกธุวภัตเป็นต้นที่เริ่มตั้งไว้แก่เธอเสีย. แม้พระราชาก็ไม่ทรงเหลียว
แลพระเทวทัตนั้น. พระเทวทัตนั้นเสื่อมลาภสักการะจึงเที่ยวขอใน
สกุลทั้งหลายบริโภคอยู่. ภิกษุทั้งหลายจึงนั่งสนทนากันในโรงธรรม-
สภาว่า อาวุโสทั้งหลาย พระเทวทัตคิดว่า จักยังลาภสักการะให้เกิดขึ้น
แม้แต่ลาภสักการะที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่อาจทำให้มั่นคง. พระศาสดา
เสด็จมาแล้วตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งสนทนากัน.
ด้วย เรื่องอะไร เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว จึงตรัสว่า
มิใช่บัดนี้เท่านั้นน่ะภิกษุทั้งหลาย แม้ในกาลก่อน เทวทัตนี้ก็ได้เป็นผู้
เสื่อมลาภสักการะ แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-