เมนู

10. สัยหชาดก


ว่าด้วยการแสวงหาที่ประเสริฐ


[538] บัณฑิตไม่พึงปรารถนาพื้นเเผ่นดิน มี
สัณฐานดุจกุณฑลท่ามกลางสาคร มีมหา-
สมุทรล้อมอยู่โดยรอบ พร้อมด้วยการนินทา
ดูก่อนสัยหะอำมาตย์ ท่านจงรู้อย่างนี้เถิด.
[539] ดูก่อนพราหมณ์ เราติเตียนการได้ยศ
การได้ทรัพย์ และความประพฤติเลี้ยงชีวิต
ด้วยการทำตนให้ตกต่ำหรือด้วยการประพฤติ
ไม่เป็นธรรม.
[540] ถึงแม้เราบวชเป็นบรรพชิต ถือภาชนะ
เที่ยวภิกขาจาร ความประพฤติเลี้ยงชีวิตนั้น
แหละประเสริฐกว่า การแสวงหาโดยไม่เป็น
ธรรมจะประเสริฐอะไร.
[541] ถึงแม้เราบวชเป็นบรรพชิต ถือภาชนะ
เที่ยวภิกขาจาร ไม่เบียดเบียนผู้อื่นในโลก
นั้นประเสริฐกว่าราชสมบัติเสียอีก.

จบ สัยหชาดกที่ 10

อรรถกถาสัยหชาดกที่ 10


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันวิหาร ทรงปรารภ
ภิกษุผู้กระสันจะสึก จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า
สสมุทฺทปริสาสํ ดังนี้
ได้ยินว่า ภิกษุนั้นเที่ยวบิณฑบาตไปในพระนครสาวัตถี เห็น
หญิงตกแต่งประดับประดามีรูปร่างงดงามคนหนึ่ง. เป็นผู้กระสันอยาก
สึก ไม่ยินดีในพระศาสนา ลำดับนั้น ภิกษุทั้งหลาย จึงพากันแสดง
ภิกษุนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า. ภิกษุนั้นถูกพระศาสดาตรัสถามว่า
ดูก่อนภิกษุ ได้ยินว่าเธอเป็นผู้กระสันอยากสึกจริงหรือ. จึงกราบทูลว่า
จริง พระเจ้าข้า. เมื่อพระศาสดาตรัสว่า ใครทำให้เธอกระสันอยากสึก
จึงกราบทูลเนื้อความนั้น. พระศาสดาตรัสว่า เรอบวชในศาสนาอัน
เป็นเครื่องนำออกจากทุกข์เห็นปานนี้ เพราะเหตุไรจึงกระสันอยากสึก
บัณฑิตทั้งหลายในกาลก่อน แม้จะได้ตำแหน่งปุโรหิต ก็ยังปฏิเสธ
ตำแหน่งนั้นแล้วไปบวช ครั้นตรัสแล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมา
สาธก ดังต่อไปนี้ :-
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในนคร
พาราณสี พระโพธิสัตว์ถือปฏิสนธิในท้องนางพราหมณีของปุโรหิต
คลอดในวันเดียวกันกับพระโอรสของพระราชา. พระราชาตรัสถาม
อำมาตย์ทั้งหลายว่า ใคร ๆ ผู้เกิดในวันเดียวกันกับโอรสของเรา มีอยู่