เมนู

3. มณิกัณฐชาดก


ว่าด้วยขอสิ่งที่ไม่ควรขอ


[358] ข้าวและน้ำอันไพบูลย์ยิ่งย่อมเกิดขึ้น
แก่ข้าพเจ้าเพราะเหตุแก้วมณีดวงนี้ ข้าพเจ้า
จักให้แก้วมณีดวงนั้นแก่ท่านไม่ได้ ท่านก็
ยิ่งขอหนักขึ้น ใช่แต่เท่านั้น ข้าพเจ้าจักไม่
มาสู่อาศรมของท่านอีกด้วย.
[359] ท่านขอแก้วมณีอันเกิดจากหินดวงนี้
ย่อมทำให้ข้าพเจ้าหวาดเสียว เหมือนกับ
ชายหนุ่มมีมือถือดาบอันลับแล้วที่แผ่นหิน
มาทำให้ข้าพเจ้าหวาดเสียว ฉะนั้น ข้าพเจ้า
จักให้แก้วมณีดวงนั้นแก่ท่านไม่ได้ ท่านก็
ยิ่งขอหนักขึ้น ใช้แต่เท่านั้น ข้าพเจ้าจักไม่
มาสู่อาศรมของท่านอีกด้วย.
[360] บุคคลรู้ว่าสิ่งของอันใดเป็นที่รักของเขา
ก็ไม่ควรขอสิ่งที่อันนั้น บุคคลย่อมเป็น
ที่เกลียดชังเพราะขอจัด พระยานาคถูก
พราหมณ์ขอแก้วมณี ตั้งแต่นั้นก็มิได้มาให้
พราหมณ์นั้นเห็นอีกเลย.

จบ มณิกัณฐชาดกที่ 3

อรรถกถามณิกัณฐชาดกที่ 3


พระศาสดาเมื่ออาศัยเมืองอาฬวีประทับอยู่ ณ อัคคาฬวเจดีย์
ทรงปรารภกุฎิการสิกขาบท จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า มมนฺนปานํ
ดังนี้.
ได้ยินว่า ภิกษุชาวเมืองอาฬวีพากันสร้างกุฏิ ด้วยการ
เที่ยวขอ มากด้วยการขอ มากด้วยการทำวิญญัติการขอร้อง พูดคำ
เป็นต้นว่า ท่านทั้งหลายจงให้คน ท่านทั้งหลายจงให้คนชี้แจงแนะนำ
พวกมนุษย์ถูกเบียดเบียนด้วยการขอ ถูกเบียดเบียนด้วยการขอร้อง
เห็นภิกษุเข้าก็หวาดเสียวสะดุ้งตกใจหลีกหนีไป. ครั้งนั้น ท่าน
พระมหากัสสป เข้าไปจนถึงเมื่องอาฬวีแล้วเข้าไปบิณฑบาต. พวก
มนุษย์เห็นแม้แต่พระเถระก็พากันหวาดกลัวเหมือนอย่างนั้น. พระ-
เถระกลับจากบิณฑบาตภายหลังภัตตาหารแล้วจึงเรียกภิกษุทั้งหลายมา
ถามว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย เมื่อก่อน เมืองอาฬวีนี้หาภิกษาหารได้ง่าย
เพราะเหตุไร บัดนี้จึงหาภิกษาหารได้ยาก ครั้นได้เหตุการณ์นั้น
จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อเสด็จมาเมืองอาฬวี ประทับอยู่ที่
อัคคาฬวเจดีย์ แล้วกราบทูลเนื้อความนั้นให้ทรงทราบ ในเพราะ
เหตุนั้น พระศาสดาจึงรับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์แล้วทรงสอบถาม
พวกภิกษุชาวเมืองอาฬวี จริงหรือที่มีข่าวว่า พวกเธอให้เขาสร้าง
กุฏิด้วยการเที่ยวขอ เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลรับว่า จริงพระเจ้าข้า