เมนู

8. อารามทูสกชาดก


ว่าด้วยถอนต้นดูรากก่อนรดน้ำ


[403] ลิงตัวใดสมมติกันว่า เป็นใหญ่กว่าฝูง
ลิงเหล่านี้ ปัญญาของลิงตัวนั้นมีอยู่เพียง
อย่างนี้เท่านั้น ฝูงลิงที่เป็นบริวารนอกนี้จะ
มีปัญญาอะไร.
[404] ข้าแต่ท่านผู้ประเสริฐ ท่านยังไม่รู้อะไร
ไฉนมาด่วนติเตียนเราต่าง ๆ อย่างนี้เล่า เรา
ยังไม่เห็นรากไม้แล้ว จะพึงรู้ต้นไม้ว่าราก
หยั่งลงไปลึกได้อย่างไรเล่า.
[405] เราไม่ได้ติเตียนท่านทั้งหลาย พวกท่าน
เป็นลิงไพรอยู่ในป่า แต่ว่าคนเช่นพวกท่าน
ทั้งหลายปลูกต้นไม้ เพื่อประโยชน์แก่พระ-
ราชาพระองค์ใด พระราชาพระองค์นั้น คือ
พระเจ้าวิสสเสนะ จะพึงถูกติเตียนได้.

จบ อารามทูสกชาดกที่ 8

อรรถกถาอารามทูสกชาดกที่ 8


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ ทักขิณาคีรีชนบท ทรงปรารภ
บุตรของนายอุยยานบาลคนหนึ่ง จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า
โยเมสญฺจ สเมตานํ ดังนี้.
ได้ยินว่า พระศาสดาทรงออกพรรษาแล้ว เสด็จออกจาก
พระวิหารเชตวัน เสด็จเที่ยวจาริกไปในทักขิณาคีรีชนบท. ครั้งนั้น
อุบาสกคนหนึ่งนิมนต์ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ให้
ประทับนั่งในสวน ให้ทรงอิ่มหนำด้วยยาคูและของควรเคี้ยวทั้งหลาย
จึงกล่าวว่า พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย ประสงค์จะเที่ยวไปในสวนขอจง
เที่ยวไปกับนายอุยยานบาลผู้นี้ แล้วสั่งนายอุยยานบาลว่า ท่านพึง
ถวายผลไม้น้อยใหญ่ในสวนแก่พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย. ภิกษุทั้งหลาย
เดินเที่ยวไปเห็นที่เป็นหลุมแห่งหนึ่ง จึงถามว่า ที่นี้เป็นหลุมไม่มี
ต้นไม้งอกขึ้น เป็นเพราะเหตุไรหนอ ? ลำดับนั้น นายอุยยานบาล
จึงบอกแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ได้ยินว่า มีบุตรของนายอุยยานบาลคนหนึ่ง
เมื่อจะรดน้ำต้นไม้ที่ปลูกใหม่ คิดว่า จักรดน้ำโดยเอารากเป็นประมาณ
จึงถอนขึ้นมาแล้วรดน้ำเฉพาะราก ด้วยเหตุนั้น ที่นั้นจึงเป็นหลุม.
ภิกษุทั้งหลายมาเฝ้าพระศาสดาแล้วกราบทูลเนื้อความนั้นให้ทรงทราบ.
พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้
ในกาลก่อน กุมารนั้นก็เป็นผู้ทำลายอาราม ภิกษุเหล่านั้นทูลอ้อนวอน
จึงทรงนำอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-