เมนู

3. กัลยาณธรรมวรรค



1. กัลยาณธรรมชาดก



ผู้มีกัลยาณธรรม


[191] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งชน กาลใด
บุคคลได้ธรรมสมัญญาในโลกว่า ผู้มีกัลยาณธรรม
กาลนั้น นรชนผู้มีปัญญาไม่พึงทำตนให้เสื่อม
จากสมัญญานั้นเสีย สัตบุรุษทั้งหลายย่อมถือไว้
ซึ่งธุระด้วยหิริและโอตตัปปะ.
[192] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งชน สมัญญาว่า
มีกัลยาณธรรมในโลกนี้ มาถึงข้าพระพุทธเจ้า
แล้วในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้าพิจารณาเห็นสมัญญา
อันนั้น จึงได้บวชเสียในคราวนี้ ความพอใจใน
การบริโภคกามในโลกนี้ มิได้มีแก่ข้าพระพุทธเจ้า
เลย.

จบ กัลยาณธรรมชาดกที่ 1

อรรถกถากัลยาณธรรมวรรคที่ 3



อรรถกถากัลยาณธรรมชาดกที่ 1



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารทรง
ปรารภแม่ผัวหูหนวกคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้มีคำ
เริ่มต้นว่า กลฺยาณธมฺโม ดังนี้.
ความพิสดารมีอยู่ว่า ในกรุงสาวัตถีมีกุฎุมพีคนหนึ่ง เป็น
คนมีศรัทธา เลื่อมใสถึงไตรสรณคมน์ ถือศีลห้า. วันหนึ่งเขาถือ
เภสัชมีเนยใสเป็นต้นเป็นอันมาก กับดอกไม้ของหอม และผ้า
เป็นต้น ไปด้วยคิดว่า จักฟังธรรมในสำนักของพระศาสดาใน
พระวิหารเชตวัน. ในเวลาที่กุฎุมพีไป ณ ที่นั้น แม่ยายเตรียม
ของเคี้ยวของบริโภคประสงค์จะเยี่ยมลูกสาว ได้ไปยังเรือนนั้น.
แต่แม่ยายหูค่อนข้างตึง. ครั้นนางบริโภคร่วมกับลูกสาว
อิ่มหนำสำราญแล้ว จึงถามลูกสาวว่า นี่ลูก ผัวของเองอยู่ด้วย
ความรักบันเทิงใจไม่ทะเลาะกันดอกหรือ. ลูกสาวพูดว่า แม่พูด
อะไรอย่างนั้น คนที่เพียบพร้อมด้วยผัวและมารยาทเช่นลูกเขย
ของแม่ แม้บวชแล้วก็ยังหายาก. อุบาสิกาฟังคำลูกสาวไม่ถนัด
ถือเอาแต่บทว่าบวชแล้วเท่านั้น จึงตะโกนขึ้นว่า อ้าวทำไมผัว
ของเองจึงบวชเสียเล่า. บรรดาผู้อยู่เรือนใกล้เคียงทั้งสิ้น ได้ยิน
ดังนั้นพากันพูดว่า เขาว่ากุฎุมพีของพวกเราบวชเสียแล้ว. บรรดา
ผู้ที่เดินผ่านไปมาทางประตู ได้ยินเสียงของคนเหล่านั้น จึงถามว่า