เมนู

กล้าแล้วทีเดียว เพราะได้เฉพาะยศสมบัติอันมีสังคหวัตถุนั้นเป็นมูล ยศที่สำเร็จ
แก่คามนิกุมารแม้นั้น ก็ชื่อว่าพรหมจรรย์ เพราะอรรถว่าประเสริฐ. ด้วยเหตุ
นั้นท่านจึงกล่าวว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้มีพรหมจรรย์แก่กล้าแล้ว. บทว่า เอวํ
ชานานิ คามนิ
ความว่า ในที่บางแห่งบุรุษชาวบ้านก็ดี หัวหน้าชาวบ้าน
ก็ดี ชื่อว่า คามนิ ผู้ใหญ่บ้าน แต่ในที่นี้ หมายเอาตนเองซึ่งเป็นหัวหน้า
คนทั้งปวงจึงกล่าวว่า ดูก่อนนายบ้านผู้เจริญ ท่านจงรู้เหตุนี้อย่างนี้ว่า เรา
ก้าวล่วงพี่ชายร้อยคน ได้รับราชสมบัติใหญ่นี้ เพราะอาศัยอาจารย์ ดังนี้เปล่ง
อุทานแล้ว.
ก็เมื่อคามนิกุมารนั้น ได้ราชสมบัติแล้ว เมื่อเวลาล่วงไป 2-3 วัน
พี่ชายทุกคนได้ไปยังสถานที่อยู่ของตน ๆ พระเจ้าคามนิครองราชสมบัติ โดย
ธรรม แล้วเสด็จไปตามยถากรรม ฝ่ายพระโพธิสัตว์ทำบุญแล้วได้ไปตามธรรม.
พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว ทรงประกาศ
อริยสัจทั้งหลาย ในเวลาจบสัจจะ ภิกษุผู้ละความเพียรได้ดำรงอยู่ในพระอรหัต
แล พระศาสดาตรัส 2 เรื่องสืบอนุสนธิต่อกัน แล้วทรงประชุมชาดกว่า
พระเจ้าคามนิในครั้งนั้นได้เป็นพระอานนท์ส่วนอาจารย์ คือเราเองแล.
จบ คามนิชาดกที่ 7

9. มฆเทวชาดก



ว่าด้วยเทวทูต



[9] ผมที่หงอกบนศีรษะของเรานี้ เกิดขึ้นนำ
เอาวัยไปเสีย เทวทูตปรากฏแล้ว บัดนี้ เป็นสมัย
บรรพชาของเรา.

จบ มฆเทวชาดกที่ 9

9. อรรถกถามฆเทวชาดก



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันวิหาร ทรงปรารภการเสด็จ
ออกมหาภิเนษกรมณ์ จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า อุตฺตมงฺครุหา
มยฺหํ
ดังนี้. การเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์นั้นได้กล่าวไว้แล้วในนิทานกถาใน
หนหลังนั้นแล. ก็ในกาลนั้น ภิกษุทั้งหลายนั่งพรรณนาการเสด็จออกบรรพชา
ของพระทศพล.
ลำดับนั้น พระศาสดาเสด็จมายังโรงธรรมสภา ประทับนั่งบนพุทธ-
อาสน์ ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอ
นั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไรหนอ ? ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแด่พระองค์
ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทั้งหลายมิได้นั่งสนทนากันด้วยเรื่องอย่างอื่น แต่นั่งพรรณนา
การเสด็จออกบรรพชาของพระองค์เท่านั้น พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลาย ตถาคตออกเนกขัมมะในบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้ แม้ในกาลก่อนก็ได้ออก
เนกขัมมะแล้ว เหมือนกัน ภิกษุทั้งหลายจึงอาราธนาพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อตรัส
เรื่องนั้นให้แจ่มแจ้ง พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงกระทำเหตุอันระหว่างภพปกปิด
ให้ปรากฏ ดังต่อไปนี้
ในอดีตกาล ในกรุงมิถิลา วิเทหรัฐ ได้มีพระราชาพระนามว่า
มฆเทวะ เป็นพระมหาธรรมราชาผู้ดำรงอยู่ในธรรม พระเจ้ามฆเทวะนั้น ทรง
ให้กาลเวลาอันยาวนานหมดสิ้นไปวันหนึ่ง ตรัสเรียกช่างกัลบกมาว่า ดูก่อน
ช่างกัลบกผู้สหาย ท่านเห็นผมหงอกบนศีรษะของเราในกาลใด ท่านจงบอก
แก่เราใน กาลนั้น ฝ่ายช่างกัลบกก็ได้ทำให้เวลาอันยาวนานหมดสิ้นไป วันหนึ่ง
เห็นพระเกศาหงอกเส้น หนึ่งในระหว่างพระเกศาทั้งหลาย้อนมีสีดังดอกอัญชัน