เมนู

7. ภัททิยกาลิโคธาปุตตเถรคาถา


ว่าด้วยความสุขอื่นจากความสุขในวิเวกไม่มี


[391] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อก่อนข้าพระองค์จะไปไหน
ก็ขึ้นคอช้างไป แม้จะนุ่งห่มผ้า ก็นุ่งห่มแต่ผ้าที่ส่งมาจาก
แคว้นกาสีมีเนื้ออันละเอียด แม้จะบริโภค ก็บริโภคแต่
อาหารล้วนเป็นข้าวสาลี พร้อมด้วยเนื้ออันสะอาดมีโอชา-
รส ถึงกระนั้น ความสุขนั้นก็หาได้ทำจิตของข้าพระองค์
ยินดีเหมือนความสุขในวิเวกในบัดนี้ไม่ แต่เดี๋ยวนี้
ข้าพระองค์ผู้มีนามว่าภัททิยะ เป็นโอรสของพระนางกาลิ-
โคธา เป็นผู้เจริญประกอบด้วยความเพียร ยินดีแต่อาหาร
ที่ได้มาด้วยการเที่ยวบิณฑบาต ไม่ถือมั่นในสิ่งใด ๆ เพ่ง
ฌานอยู่ บัดนี้ข้าพระองค์ผู้ชื่อว่าภัททิยะ เป็นโอรสของ
พระนางกาลิโคธา ถือการนุ่งห่มผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ประ-
กอบด้วยความเพียร ยินดีแต่อาหารที่ได้มาด้วยการ
บิณฑบาต ไม่ถือมั่นในสิ่งใด ๆ เพ่งฌานอยู่ บัดนี้
ข้าพระองค์ถือการเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร ประกอบด้วย
ความเพียร... บัดนี้ ข้าพระองค์ใช้แต่ผ้าไตรจีวรเป็นวัตร
ประกอบด้วยความเพียร... บัดนี้ ข้าพระองค์ถือการเที่ยว
บิณฑบาตไปตามลำดับตรอกเป็นวัตร ประกอบด้วยความ
เพียร... บัดนี้ ข้าพระองค์ถือการนั่งฉันบนอาสนะแห่ง-
เดียวเป็นวัตร ประกอบด้วยความเพียร... บัดนี้ ข้าพระ-

องค์ถือการฉันอาหารเฉพาะในบาตรเป็นวัตร ประกอบ
ด้วยความเพียร... บัดนี้ ข้าพระองค์ถือการห้ามอาหารที่
เขานำมาถวายภายหลังเป็นวัตร ประกอบด้วยความเพียร...
บัดนี้ ข้าพระองค์ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร ประกอบด้วย
ความเพียร... บัดนี้ ข้าพระองค์ถือการอยู่โคนไม้เป็นวัตร
ประกอบด้วยความเพียร... บัดนี้ ข้าพระองค์ถือการ
อยู่ในที่แจ้งเป็นวัตร ประกอบด้วยความเพียร... บัดนี้
ข้าพระองค์ถือการอยู่ในป่าช้าเป็นวัตร ประกอบด้วย
ความเพียร... บัดนี้ ข้าพระองค์ถือการอยู่ในเสนาสนะ
ตามที่ท่านจัดให้เป็นวัตร ประกอบด้วยความเพียร... บัดนี้
ข้าพระองค์ถือการนั่งเป็นวัตร ประกอบด้วยความเพียร...
บัดนี้ ข้าพระองค์ถือการเป็นผู้มักน้อยเป็นวัตร ประกอบ
ด้วยความเพียร... บัดนี้ ข้าพระองค์ถือการเป็นผู้สันโดษ
เป็นวัตร ประกอบด้วยความเพียร... บัดนี้ ข้าพระองค์
ถือการเป็นผู้ชอบสงัดเป็นวัตร ประกอบด้วยความเพียร...
บัดนี้ ข้าพระองค์ถือการไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะเป็นวัตร
ประกอบด้วยความเพียร... บัดนี้ ข้าพระองค์นามว่า
ภัททิยะเป็นโอรสของพระนางกาลิโคธา เป็นผู้ปรารภ
ความเพียร ประกอบด้วยความเพียร ยินดีแต่อาหารที่
ได้มาด้วยการเที่ยวบิณฑบาต ไม่ถือมั่นในสิ่งใด ๆ เพ่ง
ฌานอยู่... ข้าพระองค์ละทิ้งเครื่องราชูปโภค คือ จาน
ทองคำอันมีราคา 100 ตำลึง ซึ่งประกอบไปด้วยลวดลาย

อย่างงดงาม วิจิตรไปด้วยภาพทั้งภายในและภายนอกนับ
ได้ตั้ง 100 มาใช้บาตรดินใบนี้ นี้เป็นการอภิเษกครั้งที่สอง
แต่ก่อนข้าพระองค์มีหมู่ ทหารถือดาบรักษาบนกำแพงที่
ล้อมรอบซึ่งสูง และที่ป้อมและซุ้มประตูพระนครอย่าง
แน่นหนา ก็ยังมีความหวาดเสียวอยู่เป็นนิตย์ บัดนี้
ข้าพระองค์ผู้ชื่อว่าภัททิยะ เป็นโอรสของพระนางกาลิโคธา
เป็นผู้เจริญ ไม่มีความสะดุ้งหวาดเสียว ละความขลาดกลัว
ภัยได้แล้ว มาหยั่งลงสู่ป่า เพ่งฌานอยู่ ข้าพระองค์ตั้งมั่น
อยู่ในศีลขันธ์ อบรมสติปัญญา ได้บรรลุถึงความสิ้นไป
แห่งสังโยชน์ทั้งปวงโดยลำดับ.

จบภัททิยกาลิโคธาปุตตเถรคาถา

อรรถกถากาลิโคธาปุตตภัททิยเถรคาถาที่ 7

1

คาถาของท่านพระภัททิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ยาตํ เม หตฺถีคีวาย
ดังนี้. เรื่องนี้มีเหตุเกิดขึ้นอย่างไร ?
แม้พระเถระนี้ ก็ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าแต่ปาง
ก่อนทั้งหลาย ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าปทุมุตตระ บังเกิดในตระกูล
มีโภคะมาก พอรู้เดียงสาแล้ว วันหนึ่ง กำลังฟังธรรมอยู่ในสำนักของ
ศาสดา ได้เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาภิกษุรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งผู้เลิศ
ของภิกษุผู้มีสกุลสูง แม้ตนเองก็ปรารถนาฐานันดรนั้น ได้ถวายมหาทาน
แก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ตลอดสัปดาห์ แล้วได้กระทำ
ประณิธานไว้.

1. บาลีเป็นภัททิยกาลิโคธาปุตตเถระ.