เมนู

6. กุมารเปตวัตถุ



ว่าด้วยเปรตมีแต่ความหิวเพราะกรรมอะไร



[126] ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้ว่า มีพระกุมาร
สององค์เป็นพระราชโอรสอยู่ในพระนครสาวัตถี
ข้างประเทศหิมพานต์ พระราชกุมารทั้ง 2 องค์
นั้นเป็นผู้มัวเมาในอารมณ์เป็นที่ตั้งแต่งความ
กำหนัด ทรงเพลิดเพลินด้วยอำนาจความยินดี
ในกาม ทรงติดอยู่ในความสุขปัจจุบัน ไม่ทรง
เห็นสุขในอนาคต ครั้นจุติจากความเป็นมนุษย์
ไปจากโลกนี้สู่เปตโลกแล้ว เกิดเป็นเปรต ไม่
แสดงกายให้ปรากฏ ร้องประกาศกรรมชั่วของ
ตนที่ได้กระทำไว้ในกาลก่อนว่า เมื่อพระทัก-
ขิไณยบุคคลมีอยู่เป็นอันมาก และไทยธรรมอัน
เขาเข้าไปตั้งไว้ก็มีอยู่ พวกเราไม่อาจทำบุญอัน
นำมาซึ่งความสุขต่อไปแม้เล็กน้อย และทำตน
ให้มีความสวัสดีได้ อะไรจะพึงลามกกว่ากาม
นั้น พวกเราจุติการราชสกุลแล้วไปบังเกิดใน
เปตวิสัย พรั่งพร้อมไปด้วยความหิวและกระหาย
เมื่อก่อน ในโลกนี้ เคยเป็นเจ้าของในที่ใด ย่อม
ไม่ได้เป็นเจ้าของในที่นี้อีก มนุษย์ทั้งหลายเจริญ

ขึ้นแล้วเสื่อมลง ย่อมตายเพราะความหิวและ
ความกระหาย นรชนรู้โทษอันเกิดด้วยอำนาจ
ความถือตัวว่า เป็นใหญ่อย่างนี้แล้ว ละความเมา
ในความเป็นใหญ่ได้แล้ว พึงไปสู่สวรรค์ นรชน
ผู้มีปัญญาเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสวรรค์.

จบ กุมารเปตวัตถุที่ 6

อรรถกถากุมารเปตวัตถุที่ 6



พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร
ทรงปรารภเปรต 2 ตน จึงตรัสพระคาถานี้ มีคำเริ่มต้นว่า สาวตฺถิ
นาม นครํ
ดังนี้
ได้ยินว่า ในกรุงสาวัตถี พระเจ้าโกศลมีพระโอรส 2 พระองค์
น่าเลื่อมใส กำลังอยู่ในปฐมวัย มัวเมาในความเป็นหนุ่ม กระทำ
กรรมคือคบหาภรรยาของคนอื่น ทำกาละแล้ว บังเกิดเป็นเปรต
ที่หลังคู. ในเวลากลางคืน เปรตเหล่านั้นพากันรำพันด้วยเสียง
อันน่าสะพึงกลัว พวกมนุษย์ได้ฟังเสียงนั้น พากันสะดุ้งกลัว คิดว่า
เมื่อพวกเราทำอย่างนี้ อวมงคลนี้ย่อมสงบ จึงพากันถวายมหาทาน
แด่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน แล้วกราบทูลเรื่องนั้น
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอุบาสก
และอุบาสิกาทั้งหลาย เพราะได้ยินเสียงนั้น อันตรายอะไร ๆ ย่อม