เมนู

4. นันทาเปติวัตถุ



ว่าด้วยผู้ดุร้ายตายเป็นนางเปรต



นันทิเสนอุบาสกถามว่า
[101] ท่านมีผิวพรรณดำ มีรูปร่างน่าเกลียด
ตัวขรุขระดูน่ากลัว มีตาเหลือง เขี้ยวงอกออก
เหมือนหมู เราไม่เข้าใจว่าท่านเป็นมนุษย์.

นางเปรตตอบว่า
ข้าแต่ท่านนันทิเสน เมื่อก่อน ฉันชื่อ
นันทา เป็นภรรยาของท่าน ได้ทำกรรมอันลามก
ไว้จึงจากโลกนี้ไปสู่เปตโลก.

นันทิเสนถามว่า
ท่านทำกรรมชั่วอะไรไว้ด้วยกาย วาจา ใจ
เพราะวิบากแห่งกรรมอะไรท่านจึงจากโลกนี้
ไปสู่เปตโลก.

นางเปรตนั้นตอบว่า
เมื่อก่อนฉันเป็นหญิงดุร้าย หยาบคาย ไม่
เคารพท่าน พูดคำชั่วหยาบกะท่าน จึงจากโลกนี้
ไปสู่เปตโลก.

นันทิเสนถามว่า
เอาละ เราจะให้ผ่านุ่งแก่ท่าน ขอท่านจง
นุ่งผ้านี้แล้วจงมา เราจักนำท่านไปเรือน ท่าน
ไปเรือแล้วจักได้ผ้า ข้าวและน้ำ ทั้งจักได้ชม
บุตรและลูกสะใภ้ของท่าน.

นางเปรตนั้นตอบว่า
ผ้านั้นถึงท่านจะให้ที่มือของฉัน ด้วยมือ
ของท่าน ก็ย่อมไม่สำเร็จประโยชน์แก่ฉัน ขอ
ท่านจงเลี้ยงดูภิกษุทั้งหลายผู้สมบูรณ์ด้วยศีล
ปราศจากราคะ เป็นพหูสูต ให้อิ่มหนำด้วยข้าว
และน้ำ แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ฉัน เมื่อท่านทำ
อย่างนั้น ฉันจักมีความสุข สำเร็จความปรารถนา
ทั้งปวง. เมื่อนันทิเสนอุบาสกรับคำแล้ว ได้ให้
ทานเป็นอันมาก คือ ข้าว น้ำ ของเคี้ยว ผ้า เสนา-
สนะ ร่ม ของหอม ดอกไม้ และรองเท้าต่าง ๆ
และเลี้ยงดูภิกษุทั้งหลายผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ปราศ-
จากราคะ เป็นพหูสูตให้อิ่มหยกด้วยข้าวและน้ำ
แล้วทิศส่วนกุศลไปให้นางนันทา ข้าว น้ำ และ
เครื่องนุ่งห่มอันเป็นวิบาก ย่อมบังเกิดในทันตา
นั้นนั่นเอง นี้เป็นผลแห่งทักษิณา ในขณะนั้นนั่น
เอง นางเปรตนั้นมีร่างกายบริสุทธิ์สะอาด นุ่งห่ม

ผ้าอันดีมีค่ายิ่งกว่าผ้าแคว้นกาสี ประดับด้วย
วัตถาภรณ์อันวิจิตร เข้าไปหาสามี.

นันทิเสนอุบาสกจึงถามว่า
ดูก่อนนางเทพธิดา ท่านมีวรรณะงามยิ่ง
นักส่องสว่างไสวไปทั่วทุกทิศสถิตอยู่ ดุจดาว
ประกายพรึก ท่านมีวรรณะงามเช่นนี้ อิฐผลย่อม
สำเร็จแก่ท่านในวิมานนี้ และโภคะทุกสิ่งทุกอย่าง
อันเป็นที่พอใจ ย่อมเกิดแก่ท่านเพราะกรรมอะไร
ดูก่อนนางเทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก ฉันขอถาม
ท่าน เมื่อท่านเกิดเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไร อนึ่ง
ท่านมีอานุภาพรุ่งเรื่อง และมีรัศมีสว่างไสวไปทั่ว
ทุกทิศอย่างนี้ เพราะกรรมอะไร.

นางนันทาเทพธิดาตบว่า
ข้าแต่ท่านนันทิเสน เธอก่อน ฉันชื่อ
นันทาเป็นภรรยาของท่าน ได้ทำกรรมชั่วช้า จึง
จากมนุษยโลกนี้ไปสู่เปตโลก ฉันอนุโมทนาทาน
ที่ท่านให้แล้ว จึงไม่มีภัยแต่ที่ไหน ๆ ดูก่อน
คฤหบดี ขอท่านพร้อมด้วยญาติทั้งปวงจงมีอายุ
ยืนนานเถิด ดูก่อนคฤหบดี ท่านประพฤติธรรม
และให้ทานในโลกนี้แล้ว จะเข้าถึงถิ่นฐานอันไม่
เศร้าโศก ปราศจากธุลี ปลอดภัย อันเป็นที่อยู่ของ

ท้าวสวัตตี ท่านกำจัดมลทิน คือความตระหนี่
พร้อมด้วยรากแล้ว อันใคร ๆ ไม่ติเตียนได้ จัก
เข้าถึงโลกสวรรค์.

จบ นันทาเปติวัตถุที่ 4

อรรถกถานันทาเปติวัตถุที่ 4



เมื่อพระศาสดา ประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรง
ปรารภนางเปรตชื่อว่า นันทา จึงตรัสคาถานี้ มีคำเริ่มต้นว่า
กาฬี ทุพฺพณฺณรูปาสิ ดังนี้.
ได้ยินว่า ในหมู่บ้านตำบลหนึ่ง ไม่ไกลแต่กรุงสาวัตถีนัก
ยังมีอุบาสกคนหนึ่ง ชื่อว่า นันทิเสน เป็นผู้มีศรัทธา มีความเลื่อมใส.
ส่วนภริยาของเขา ชื่อว่า นันทา ไม่มีศรัทธา ไม่มีความเลื่อมใส
เป็นคนตระหนี่ ดุร้าย กล่าววาจาหยาบ ไม่เคารพยำเกรงสามี
ด่าบริภาษแม่ผัว ด้วยวาจาว่าเป็นโจร. สมัยต่อมานางนันทานั้น
ทำกาละแล้ว ไปบังเกิดในกำเนิดเปรต แสดงตนในที่ไม่ไกลหมู่บ้าน
นั้นนั่นเอง. นันทิเสนอุบาสกเห็นนางนั้น จึงได้กล่าวคาถาว่า :-
ท่านมีผิวพรรณดำ มีรูปร่างน่าเกลียด ตัว
ขรุขระดูน่ากลัว มีตาเหลือง มีเขี้ยวงอกออก
เหมือนหมู เราไม่เข้าใจว่า ท่านจะเป็นมนุษย์.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กาฬี แปลว่า มีสีดำ. จริงอยู่
วรรณะของนางเปรตนั้น เป็นเสมือนถ่านที่ถูกเผาแล้ว. บทว่า